มดลูกหลุดโผล่ออกจากช่องคลอด (Procedentia Uteri)

การผ่าตัดผ่านกล้องกรณีมดลูกหลุดโผล่จากช่องคลอด

                ข้าพเจ้าชอบพูดกับตัวเองบ่อยๆว่า ‘ผมเก่งขึ้นทุกวัน ผมพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นตลอดเวลา’ ข้าพเจ้าพูดเช่นนี้กับตัวเองเสมอ เพราะข้าพเจ้าหมั่นสังเกต จดจำ และเรียนรู้กับสิ่งรอบตัวอย่างมากมาย ทุกวัน ทุกเวลา ทุกนาที.. ต่อยอดจากความรู้เดิมที่มี…หลายวันก่อน คุณหมอเอ๋ เพื่อนข้าพเจ้าที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ได้โทรศัพท์มาบอกข้าพเจ้าว่า ‘ค้นพบวิธีการผ่าตัดดึงกลับมดลูกที่หลุดโผล่ออกมาจากช่องคลอดในผู้หญิงสูงวัยแบบใหม่ (Procedentia uteri)  โดยศึกษาจากคลิปวีดีโอในอินเตอร์เนต (www.youtube.com)’ และจะมีการผ่าตัดในวันพฤหัสที่ผ่านมา 2 ราย เมื่อถึงกำหนดนัดหมาย ข้าพเจ้าจึงได้เดินทางไปยัง รพ.พระนั่งเกล้าตอนเที่ยง เนื่องจาก ตอนเช้า มีการประชุมเรื่องสำคัญ ทำให้ไปไม่ทันในการผ่าตัดคนไข้รายแรก  

                ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ข้าพเจ้าเดินทางไปถึงตอนเที่ยงวันพอดี และรับประทานอาหารร่วมกับอาจารย์และแพทย์ประจำบ้านของ รพ.ราชวิถี หลังจากนั้น..ก็พากันไปเข้าห้องผ่าตัด ข้าพเจ้าสอบถามประวัติคนไข้จากพยาบาลที่นั่น ประวัติคนไข้น่าสนใจมาก กล่าวคือ เป็นผู้หญิงโสด อายุ 68 ปี มีก้อนยื่นโผล่ออกมาจากช่องคลอดหลายเดือนก่อนและมีปัญหาเรื่องกลั้นปัสสาวะไม่อยู่.. บางครั้งต้องยืนปัสสาวะ..เรื่องนี้มีความน่าสนใจมาก เพราะผู้หญิงโสดมักไม่พบปัญหามดลูกหย่อนและโผล่ออกมาจากช่องคลอด (Procedentia uteri) เนื่องจาก ช่องคลอดไม่เคยถูกขยายจากการคลอดบุตร ..นี่จึงเป็นปรากฏการณ์ใหม่ ให้ทุกคนได้รู้ว่า หญิงโสด ก็หนีปัญหาเรื่องนี้ไปไม่พ้น..

                ครั้งนี้ ข้าพเจ้าเข้าห้องผ่าตัด ไม่ใช่ในฐานะเป็นหมอผ่าตัดหลัก แต่เป็นเพียงผู้ช่วยผ่าตัด..วันนั้น เป็นการผ่าตัดผ่านกล้อง ชนิดเลนส์ 3 มิติ คุณหมอทุกคนที่เข้าช่วยและชมการผ่าตัด จึงต้องใส่แว่นตาเฉพาะเพื่อดูภาพจากจอมอนนิเตอร์ให้ชัดเจน แวนตามีเลนส์ที่มีสีออกดำๆ..ทำให้คนอื่นภายนอกมองไม่ออกว่า ผู้ช่วยผ่าตัดกำลังหรี่ตาอยู่หรือเปล่า….การผ่าตัดเป็นไปแบบไม่ยุ่งยาก เริ่มต้นด้วยการเจาะท้องผ่านรูสะดือ และด้านข้างของผนังหน้าท้องอีก 3 รู จากนั้น ก็ใช้กรรไกรที่มีแกนยาวเหมือนตะเกียบ ผ่าตัดเปิดเยื่อบุลำไส้ที่คลุมตัวมดลูกทางด้านล่าง (Posterior aspect of lower uterine segment) ก่อน โดยเลาะแยกเปิดให้เยื่อบุที่คลุมผิวมดลูกด้านล่างออกจากเนื้อมดลูก ให้มีพื้นที่กว้างพอสมควร..จากนั้น ก็หันมาผ่าตัดเปิดแยกเยื่อบุที่คลุมตัวมดลูกทางด้านหน้า (Anterior aspect of lower uterine segment)..เมื่อทำเสร็จแล้ว ก็ใช้กรรไกรเจาะเป็นช่องหน้าต่าง (Window) ที่แผ่นเนื้อเยื่อด้านข้างของมดลูก ณ บริเวณที่เรียกว่า Broad ligament ทั้งสองข้าง..

ขั้นตอนต่อไปเป็นขั้นตอนสำคัญมาก นั่นคือ การวาง Mess หรือ แผ่นวัสดุพิเศษลักษณะเป็นเยื่อตาข่ายละเอียด โดยตัดเป็นรูปเกือกม้าไว้ก่อนแล้ว วิธีการ คือ หย่อนส่วนขาทั้งสองของตาข่าย คร่อมลงไปในช่องหน้าต่างทั้งสองข้าง (Window) ที่เจาะเตรียมไว้ (Both Adnexa)  แล้วก็จับ ปลายขาด้ายซ้ายของ Mess สอดทะลุข้างใต้ เอ็นที่ชื่อว่า Left sacro iliac ligament ไปโผล่ตรงกลางบริเวณคอมดลูกด้านล่าง..ส่วนปลาย Mess ด้านขวา ก็เพียงสอดวางไว้เฉยๆ.. หลังจากนั้น ก็เอา ส่วนขาของ Mess ทั้งสองข้างมาผูกกัน..เมื่อผูกเรียบร้อย..ก็ใช้กรรไกร ตัดขา mess ส่วนเกินที่ยื่นจากปมออกมา

                ขั้นตอนสำคัญ อีกขั้นตอนหนึ่ง คือ การดึงรั้งมดลูกให้ลอยขึ้น โดยผูกติดกับสายยาวๆคล้ายริบบิ้นที่ทำจาก Mess กับผนังหน้าท้องด้านข้างทั้งสอง (Lateral abdominal wall)…วิธีการ คือ ตัด Mess ออกเป็นเส้นยาวคล้ายริบบิ้น กว้าง 1.5 ซม. และยาวประมาณ 15 เซนติเมตร.. จากนั้น คุณหมอเอ๋ก็ทำการเจาะที่ด้านข้างของผนังหน้าท้อง ด้วย Trocar (5 mm) ณ ตำแหน่งเหนือต่อสันกระดูกที่ชื่อ  Illiac crest ไป 4  เซนติเมตร ..เจาะเป็นช่องที่มีปากทางเข้า ยาวครึ่งเซนติเมตร..ขณะที่ข้าพเจ้าก็ทำการเจาะผนังหน้าท้องทางด้านข้างข้าพเจ้าในทำนองเดียวกัน คุณหมอเอ๋ใช้ตัวปากคีบจับปลายของ ริบบิ้น Mess สอดใส่เข้าไปตามช่องที่เจาะไว้นั้น, แทงทะลุแผ่น sheeth (แผ่นเยื่อพังผืดหนาของผนังหน้าท้อง) และวางตัวอยู่เหนือเยื่อบุลำไส้ (Peritoneum) แล้วแทงลอดสอดแทรกตัวไปกับเยื่อบุช่องท้อง จนไปโผล่ที่เอ็น ชื่อ Sacro-illiact ligament ด้านขวา ..ส่วนข้าพเจ้าก็ใช้ปลายปากคีบดึงส่วนปลายของ ริบบิ้น Mess ต่อจากคุณหมอเอ๋..ดึงปลายริบบิ้น mess จากคุณหมอเอ๋ ให้แทรกตัวไปตามเนื้อเยื่อนอกเยื่อบุช่องท้อง (Peritoneum) ย้อนกลับมาทางข้าพเจ้า จนโผล่ออกทางผนังหน้าท้องด้านซ้าย..จากนั้น ก็รีบใช้ เครื่องมือ Clamp จับปลายริบบิ้น Mess ไว้ เพื่อกันไม่ให้มันหลุดเข้าไปข้างใน..

                เมื่อยึดตัวมดลูกและช่องคลอดด้วยริบบิ้น Mess กับผนังหน้าท้องทั้งสองข้างได้แล้ว คุณหมอเอ๋และข้าพเจ้าก็ตัดปลายริบบิ้น Mess ที่โผล่ออกมาบริเวณผนังหน้าท้องทั้งสองข้างทิ้งไป ปล่อยชายริบบิ้น Messไว้ข้างใต้ผนังหน้าท้อง แล้วเย็บปิดแผลช่องท้องตรงนั้นเสีย  นี่..ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการผ่าตัดเพื่อยึดให้มดลูก ไม่โผล่หลุดออกไปจากช่องคลอด กระบวนการผ่าตัดแบบนี้ ช่วยลดขั้นตอน ในการตัดมดลูกออก และเย็บจับยึดตัวมดลูกกับกระดูสันหลังส่วนปลาย (sacro-colpo pexy)..แบบเดิมไปอย่างมาก…หลังจากนั้น ข้าพเจ้าก็ขอตัวออกจากห้องผ่าตัดก่อน เพราะต้องรีบเดินทางไปฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูก (IUI = Intrauterine insemination) ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง (ขอสงวนนาม)..

                ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังรีบเดินทางกลับไปทำงาน ก็เกิดปัญหาขึ้นอย่างหนึ่ง คือ เครื่องยนต์ของรถที่จอดไว้ที่ห้างสรรพสินค้าโลตัสแถวนั้น ไม่สามารถทำงานได้ เพราะแบตเตอรี่หมด..ข้าพเจ้าจึงใช้แบตเตอรี่สำรองไฟ ในการติดเครื่องยนต์จากการต่อพ่วง ก็สามารถทำให้เครื่องยนต์ติดได้.. ด้วยความดีใจ ข้าพเจ้ารีบขับเดินทางอย่างรวดเร็ว และถึงโรงพยาบาลเอกชนแห่งนั้น ตอนเวลา 4 โมงเย็น.. เมื่อฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูกให้คนไข้เสร็จ ก็นั่งแท็กซี่ต่อไปออกตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งที่สองจนถึง 2 ทุ่ม จึงนั่งแท็กซี่กลับมาอยู่เวรที่โรงพยาบาลเอกชนเดิม   

ระหว่างทาง คนขับแท็กซี่เล่าให้ฟังว่า ‘ลูกชายของตนประสบอุบัติเหตุถูกรถจักยานยนต์ที่ขับสวนทางมา เชี่ยวชนจนเอ็นที่นิ้วเท้าข้างซ้ายขาด คุณพ่อของคู่กรณีต่อรองจะจ่ายเพียง 3 ถึง 4 พันบาท.. แกได้โต้ตอบแบบสะใจ คือ ไม่ขอเงินอะไรหรอก ให้เอาจอบมา แล้วให้แกสับลงที่เท้าของคนขี่จักรยานลูกคู่กรณี..แล้วแกจะจ่ายเงินแถมให้ด้วย 3 หมื่นบาท..เพราะค่ารักษาพยาบาลเช่นนี้ ต้องแพงมากอย่างแน่นอน..สุดท้ายคู่กรณียอมจ่ายเงิน 2.5 หมื่นบาท..แต่ค่ารักษาพยาบาลจริง คือ 1.2 แสนบาท โชคดี..ที่บริษัทฯที่ลูกแกทำงานมีประกันหมู่ จึงไม่ต้องเสียเงิน..’ นี่แหละความเป็นจริงของชีวิต..โรคภัยไข้เจ็บในปัจจุบัน..เผาผลาญเงินของผู้ป่วยไปอย่างมาก..หากไม่ระมัดระวังในการประกันความเสี่ยงไว้..มีหวังอับจน..

ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น พอออกจากเวร ก่อนจะขับรถกลับบ้าน ก็ต้องพ่วงต่อเชื่อมแบตเตอรี่กับแบตเตอรีสำรองอีกครั้ง..เมื่อข้าพเจ้าขับรถถึงบ้าน ก็เข้าไปอาบน้ำ ทำธุระส่วนตัว วางแผนว่า จะขับรถต่อไปยังร้านขายแบตเตอรี่..แต่คราวนี้ ข้าพเจ้าต้องผิดหวังอย่างมาก เพราะทำยังไง..เครื่องยนต์ก็ไม่สามารถขยับตัวได้อีก เพราะแบตเตอรี่ตายสนิท..ไม่ว่า ข้าพเจ้าจะใช้วิธีเชื่อมต่อกับแบตเตอรี่สำรอง หรือต่อพ่วงกับรถยนต์อีกคันที่บ้าน ก็ไม่สามารถทำให้แบตเตอรีรถข้าพเจ้า กลับมาทำงานได้อีก..ข้าพเจ้าจึงจำเป็นต้องเดินทางไปที่ร้านขายแบตเตอรี่และขอให้ทางร้านส่งคนมาเปลี่ยนแบตเตอรีที่บ้าน..เสียเวลาไปทั้งหมดกว่า 3 ชั่วโมง..หากข้าพเจ้ามีธุระสำคัญแบบที่ผ่านมา ไม่ว่า จะฉีดเชื้อเข้าโพรงมดลูกหรือผ่าตัดคลอดตามฤกษ์ที่โรงพยาบาลเอกชน..ข้าพเจ้าคงทำไม่ได้ และเสียหายความน่าเชื่อถืออย่างหนัก….นี่แหละชีวิต..

เรื่องราวแบตเตอรี่รถยนต์ของข้าพเจ้าข้างต้น เปรียบเสมือนคนไข้สตรีที่มีมดลูกหลุดโผล่ออกจากช่องคลอด (Procedentia uteri) จำนวนมากมายในประเทศ..ซึ่งเกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายหมด..หากไม่แก้ไขผ่าตัดเติมเต็มข้อบกพร่อง..ไม่เร็ว ก็ช้า เธอก็จะไม่สามารถดำรงอยู่ได้ในชีวิตประจำวันแบบปกติสุข..เหมือนรถยนต์ที่หมดแบตเตอรี่….ถึงใช้การแก้ไขแบบขอไปที ได้ในบางครั้งบางคราว..แต่ในที่สุด..ก็จะหมดสภาพ..ดังนั้น ตอนนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่วิธีการแก้ไขด้วยการผ่าตัดผ่านกล้องแบบใหม่..ซึ่งจะทำให้ชีวิตกลับมาเป็นปกติสุข..จงอย่ารอช้า..รีบฉวยโอกาสเข้ารับการผ่าตัดแก้ไข..เพื่อให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นเหมือนคนทั่วไป..โดยไม่ต้องจ่ายค้ารักษาพยาบาลที่แพงมาก..

เสียงเพลงบรรเลงในค่ำคืนนี้ ช่างไพเราะจับใจข้าพเจ้ายิ่งนัก..ทำให้มีจินตนาการในการเขียนหนังสือ..แม้ว่า ชีวิตมนุษย์ จะยังต้องดำเนินต่อไปตามยถากรรม..แต่..ก็มีบุคคลจำพวกหนึ่ง ที่พยายามพัฒนาตัวเอง..พัฒนาเครื่องมือทางการแพทย์สิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ..รวมทั้งเทคนิคในการผ่าตัดพิเศษขึ้นมา เพื่อรักษาให้ผู้คนในโลกนี้ มีชีวิตที่ดีขึ้น..ใครที่ก้าวไม่ทัน..ข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ ก็มีแต่จะเสียเปรียบ…ถูกทอดทิ้งให้ทุกข์ทรมาน..อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่…เหมือนสตรีสูงวัยจำนวนมากมายในโลก ที่มีมดลูกหย่อนหลุดโผล่ออกมาจากช่องคลอด จากการขาดฮอร์โมน..แล้วปล่อยปละละเลยกับตัวเอง..ด้วยไม่รู้..

฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿

พ.ต.อ. นพ. เสรี  ธีรพงษ์  ผู้เขียน

 

 

 

  

               

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *