สัปดาห์ก่อน วันพฤหัส ภายในห้องผ่าตัดได้เกิดเหตุการณ์โกลาหลขึ้นอย่างหนึ่ง คือ
ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังผ่าตัดเปิดหน้าท้องของคนไข้สตรีรายหนึ่ง เพื่อตัดเนื้องอกในช่องท้อง ข้าพเจ้า
ต้องตกใจ และสบถคำไม่สุภาพออกมาจนทำให้คนอื่น ๆ พลอยตกใจไปด้วย
\”ตายละหว่า…ผ่าตัดผิด!…\” ข้าพเจ้าอุทาน
\”มีอะไรผิดพลาดหรือ…\” พยาบาลดมยาถาม
\”สงสัย ผมจะเอาคนไข้ตั้งครรภ์ธรรมดามาผ่า เพราะมดลูกโตและนุ่มเหมือนคนท้อง
อายุครรภ์ 6 เดือนเลย\” ข้าพเจ้าตอบกลับไป
\”อาจารย์!… คนไข้รายนี้มีระดูทุกเดือนนะครับ จะท้องได้ยังไง\” นักศึกษาแพทย์
ผู้ช่วยผ่าตัดเอ่ยทักขึ้น คำเอ่ยทักนี้เองทำให้ข้าพเจ้าตื่นจากความตกใจและค่อย ๆ เรียงลำดับ
เหตุการณ์
คนไข้สตรีรายนี้ อายุเพียง 23 ปี แต่งงานแล้ว แต่ยังไม่เคยมีลูก เธอคลำพบก้อนที่
ท้องน้อยมาเมื่อ 1 ปีก่อน ก้อนที่ท้องน้อยค่อย ๆ โตขึ้นเรื่อย ๆ
ประมาณต้นเดือนเมษายน เธอได้มาตรวจโรคที่โรงพยาบาลตำรวจ ข้าพเจ้าบอก
เธอว่าน่าจะเป็นเนื้องอกรังไข่ขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20 เซนติเมตร และแนะนำ
ให้ไปผ่าตัดยังโรงพยาบาลของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัย เพราะในใจข้าพเจ้าคิดว่า อาจจะ
เป็นมะเร็งรังไข่
คนไข้ได้รับการตรวจร่างกายและตรวจทางห้องปฏิบัติการหลายอย่าง รวมทั้งตรวจ
ด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ด้วย ขณะนั้น คนไข้มีปัญหาเรื่องโลหิตจางมาก ๆ ข้าพเจ้าจึงได้ให้ยา
บำรุงเลือดไปรับประทานประมาณ 1 เดือน แล้วค่อยมานัดผ่าตัดทีหลัง ข้าพเจ้าถามเธอว่า
\”ทำไมถึงไม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย\” คนไข้ตอบว่า \”ไว้ใจหมอ หมอเป็นคนใจดี หนู
อยากรักษาที่นี่\”
หลังจากนั้น 1 เดือน คนไข้มาตรวจเลือดอีกครั้ง พบว่า ความเข้มข้นของเลือดเพิ่ม
มากขึ้นเกือบเท่าคนปรกติ ข้าพเจ้าจึงได้นัดให้มารับการผ่าตัดในอีก 2 สัปดาห์ถัดมา ดังนั้น
ข้าพเจ้าค่อนข้างจะลืมประวัติคนไข้ไปแล้ว มาพบกันอีกที คือ ในห้องผ่าตัด นั่นคือ ที่มาของคำว่า
\”ตายละหว่า!…\” จากนั้นข้าพเจ้าจึงพูดต่อไปว่า
\”เดิมวินิจฉัยเป็นเนื้องอกรังไข่ คิดไม่ถึงเลยว่า พอผ่าตัดเปิดหน้าท้องออกมาจะ
กลายเป็น เนื้องอกมดลูก แต่มดลูกนุ่มมากเหลือเกิน ลักษณะเหมือนคนท้องเลย เพื่อความไม่
ประมาทให้ใครช่วยไปเอาเครื่องอัลตราซาวนด์มาตรวจดูมดลูกรายนี้ว่า ไม่มีเด็กอยู่ข้างใน\”
ในระหว่างนั้น ข้าพเจ้าพยายามทบทวนความจำว่า เคยทำการตรวจอัลตราซาวนด์
หน้าท้องคนไข้ไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อเดือนก่อน และพบเนื้องอกซึ่งขณะนั้นนึกว่าเป็น เนื้องอกรังไข่
ข้าพเจ้าหยิบเอามดลูกขนาดใหญ่เท่ากับที่ตั้งครรภ์ 6 เดือน ออกมาจากในช่องท้อง
แล้วเอาแผ่นพลาสติกใสปราศจากเชื้อโรค ปิดคลุมตัวมดลูกและบริเวณผ่าตัดใกล้เคียง จากนั้น
จึงใช้เครื่องอัลตราซาวนด์ตรวจดูอย่างละเอียด
\”ไม่มีตัวเด็ก!…ข้างในมองเห็นเป็นสีดำ ๆ น่าจะเป็น เนื้อ มากกว่า น้ำ\” ข้าพเจ้า
อธิบายให้กับพยาบาลหลาย ๆ คน ภายในห้องผ่าตัดฟัง ขณะที่ใช้หัวตรวจอัลตราซาวนด์เคลื่อนไป
บนก้อนมดลูก
\”สรุปว่า เป็นเนื้องอกมดลูก ค่อยสบายใจหน่อย แต่ข้างในมีลักษณะแปลก ๆ นะ\”
ข้าพเจ้าพูดไป ก็แสดงความไม่แน่ใจออกมาว่า จะทำอะไรต่อไป พยาบาลคนหนึ่งในที่นั้นบอกว่า
\”ทำไมหมอไม่ลองเอาเข็มเจาะดูดดูละ เผื่อว่าจะมีน้ำอยู่ภายใน แต่…ไม่มีเด็กแน่นะ\”
\”ไม่มีเด็กแน่นอน ดูจากภาพบนจอเครื่องอัลตราซาวนด์ซิ\” ข้าพเจ้าย้อนตอบกลับไป
เพราะยังมีคนไม่เชื่อว่าสิ่งที่ข้าพเจ้าพูดเป็นความจริง จากนั้น ข้าพเจ้าจึงเอาเข็มฉีดยาพร้อมกับ
กระบอกฉีดยาขนาด 20 มิลลิลิตร มาเจาะลงบนเนื้องอกมดลูกนั้น
\”ไม่ได้อะไรออกมาเลย!…\” ข้าพเจ้าอธิบายไปด้วย ขณะที่เจาะดูดเนื้องอกมดลูก
ข้าพเจ้าเจาะดูดไปหลายครั้ง จนแน่ใจว่า เป็นเนื้องอกมดลูกจริง ๆ จึงลงมือผ่าตัดต่อไป
ข้าพเจ้า ลงมีดที่ส่วนบนบริเวณกึ่งกลางตัวมดลูก ค่อย ๆ กรีดตรงลงมา เลือดออก
เพียงเล็กน้อย ค่อย ๆ แหวกรอยกรีดออก ข้าพเจ้ามองเห็น \”เนื้อ\” ลักษณะเหมือนเนื้องอกชนิด
ไม่ร้ายแรง (MYOMA) อยู่ข้างล่าง จึงใช้นิ้วมือลงไปเซาะลอกเอาตัวเนื้องอกออกมา
\”สังสัยเป็นเนื้องอกมดลูก (MYOMA) ธรรมดา\” ข้าพเจ้าพูดไป ก็ใช้มือเซาะไป
ปรกติเนื้องอกชนิดนี้ สามารถเอามือเซาะลอกเอาออกมาเป็นก้อนได้เลย เพราะก้อนเนื้องอกมี
ลักษณะเหมือน ลูกบอลที่ซ่อนอยู่ภายในตัวมดลูก ยิ่งเซาะมือลงไปเลาะ ยิ่งรู้สึกว่าก้อนเนื้องอกใหญ่
มาก นอกจากนั้น รูปร่างยังดูแปลก ๆ อีกด้วย รอยแผลที่ลงมีดบนตัวมดลูกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ตาม
ขนาดของเนื้องอก ในที่สุดข้าพเจ้าสามารถลอกเอาเฉพาะเนื้องอกออกมาจากตัวมดลูกได้ แต่
ข้าพเจ้าต้องอุทานเป็นครั้งที่ 2
\”ตายแล้ว!…หน้าตาเนื้องอกทำไมน่าเกลียดอย่างนั้น ลักษณะเหมือนกับ สมองคน
เลย มะเร็งแน่นอน!…\” ข้าพเจ้าเริ่มไม่สบายใจกับสิ่งที่พบ พลางชี้ให้พยาบาลในห้องผ่าตัดนั้นดู
เนื้องอกมดลูกก้อนใหญ่ที่ลอกเอาออกมา ทุกคนที่เห็นต่างอุทานเหมือน ๆ กันคือ
\”สงสัย มะเร็งมดลูก!…\”
\”คนไข้ยังสาวอยู่เลย เรียกหัวหน้าแผนกให้หน่อย ช่วยมาพิจารณาอีกคนว่า จะทำ
ยังไงดี\” ข้าพเจ้าบอกกับพยาบาลในห้องนั้น ขณะเดียวกัน ก็ลงมือตัดมดลูกไปเลย เพราะยังไง ๆ
คงไม่สามารถเก็บรักษาตัวมดลูกไว้ได้แล้ว เพียงแต่ รังไข่ ซึ่งมีเซลล์สืบพันธุ์ จำนวนมากและเป็น
อวัยวะที่สร้างฮอร์โมนเพศ เราจะเก็บเอาไว้ดีไหม…
หัวหน้าแผนกสูติ-นรีเวช โรงพยาบาลตำรวจ เข้ามามอง ๆ สักครู่ ท่านจึงบอกว่า
\”มะเร็งมดลูกแน่นอน ตัดหมดเลยนะ ไม่ต้องเหลือรังไข่ไว้เลย และตัดเอาเยื่อบุลำไส้บางส่วนส่ง
ตรวจไปด้วย เพื่อดูการกระจายของมะเร็ง แต่เออ! ลองตัดชิ้นเนื้อบางส่วนส่งไปห้องพยาธิวิทยา
ดูก่อนดีไหม เพื่อยืนยันการวินิจฉัยของเรา\” ข้าพเจ้าทำตามคำแนะนำ ตัดชิ้นเนื้อของเนื้องอก
มดลูกบางส่วนส่งไปตรวจ พร้อมกับบอกกับพยาบาลที่นำชิ้นเนื้อไปส่งว่า \”ขอผลด่วนนะครับ\”
ผลที่ว่านี้ คือ ผลการตรวจทางพยาธิวิทยา
ไม่รอช้าข้าพเจ้าทำการตัดมดลูกออกพร้อมกับเนื้องอกไปเรื่อย ๆ ขณะที่รอผลชิ้นเนื้อ
ตอนนั้นข้าพเจ้าเหลือรังไข่ด้านซ้ายไว้ข้างหนึ่ง เผื่อว่าจะ มีปาฏิหารย์ คือผลการตรวจทางพยาธิ
วิทยาไม่เป็นมะเร็งอย่างที่พวกเราเข้าใจกัน
ข้าพเจ้าใช้เวลาผ่าตัดเอามดลูกพร้อมกับรังไข่ด้านขวา และเยื่อบุลำใส้ออกประมาณ
1 ชั่วโมงครึ่ง และรอว่า หากผลชิ้นเนื้อที่ส่งไปตรวจเป็นมะเร็ง ก็จะตัดรังไข่ด้านซ้ายไปด้วย
สักครู่หนึ่งพยาธิแพทย์โทรศัพท์กลับมาบอกเองว่า \”เป็นเนื้องอกมดลูก (MYOMA) ธรรมดา เพียง
แต่มีลักษณะเซลล์บวมน้ำไปหน่อย\”
\”โชคดีเป็นของคนไข้ รังไข่ที่เหลือไว้ในตอนแรก ไม่ต้องตัดออกไปด้วย\” ข้าพเจ้า
พูดอธิบายต่อ \”แต่อย่าไปวางใจมากนัก ชิ้นเนื้อที่ส่งไปตรวจเป็นเพียงส่วนน้อยของเนื้องอกเท่านั้น
เพราะหน้าตาเนื้องอก น่าเกลียดมาก ลักษณะคล้ายกับมะเร็งเลย คงต้องรอผลทางพยาธิวิทยา
ในขั้นสุดท้ายอีกที แล้วจึงค่อยสบายใจว่า ไม่ใช่มะเร็ง\”
\”คนไข้รายนี้ตลกดี\” ข้าพเจ้าสรุปตอนท้าย \”เหตุการณ์พลิกกลับไปกลับมา ตอนแรก
คิดว่า เป็นเนื้องอกรังไข่ พอผ่าตัดเปิดหน้าท้องลงไป กลายเป็นเนื้องอกมดลูก พอยกมดลูกขึ้นมา
เหนือหน้าท้อง ก็ต้องตกใจ และคิดว่า ผ่าตัดผิด เพราะมดลูกโตและนุ่มมากเหมือนกับของสตรี
ตั้งครรภ์ พอเลาะเอาเนื้องอกออกมาก็คิดว่า เป็นมะเร็ง แต่ผลชิ้นเนื้อกลับเป็นเนื้องอกมดลูก
ธรรมดา ไม่รู้ว่า อาทิตย์หน้าผลชิ้นเนื้อจริง ๆ จะพลิกกลับมาเป็นมะเร็งอีกหรือเปล่า ถ้าเป็น
มะเร็งละก็ มะเร็งมดลูกชนิดนี้การพยากรณ์โรคจะไม่ดี แต่คิดในทางที่ดีไว้ก่อนดีกว่า ขออย่าให้
เป็นมะเร็งเลย\” ก่อนออกจากห้องผ่าตัด ข้าพเจ้าได้ขอให้ช่างภาพของโรงพยาบาลถ่ายรูป
เนื้องอกมดลูกที่ตัดออกมาไว้เพื่อการศึกษาด้วย
ข้าพเจ้าได้ไปเยี่ยมคนไข้ทุกวัน และบอกคนไข้กับสามีว่า \”เป็นเนื้องอกมดลูกขนาด
ใหญ่มาก ตอนแรกพยายามเก็บตัวมดลูกเอาไว้ตั้งครรภ์ แต่ไม่สามารถเก็บมดลูกไว้ได้จริง ๆ ต้อง
ตัดออกทั้งหมด อย่างไรก็ตามได้ส่งตรวจชิ้นเนื้อระหว่างผ่าตัด ผลคือไม่เป็นมะเร็ง ขอให้สบายใจ
หากต้องการจะมีลูกของตัวเองละก็ เก็บเงินไว้เยอะ ๆ วันหลังค่อยมารักษาด้วยวิธี อุ้มบุญ\”
คนไข้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ด้วยความดีใจที่ไม่เป็นมะเร็ง ช่วงนี้เองข้าพเจ้าเพิ่งจะสังเกต
ว่าเธอเป็นสตรีที่สวยงามมากคนหนึ่ง เรียกว่าสามารถส่งเข้าประกวดนางสาวไทยได้ทีเดียว
สัปดาห์ถัดมา ผลชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยาส่งกลับมาว่า \”เป็นเนื้องอกมดลูกธรรมดา\”
โชคดีที่ตอนแรกผ่าตัดเหลือรังไข่เอาไว้ข้างหนึ่ง ข้าพเจ้าเหลือไว้อย่างนั้นเอง เผื่อไว้ว่า จะมี
ปฏิหารย์เกิดขึ้น เพราะว่าหน้าตาของเนื้องอกเหมือนกับ \”มะเร็ง\” มากเหลือเกิน ขนาดหัวหน้า
แผนกยังบอกเลยว่า \”ตัดออกให้หมดเถอะ มะเร็งแน่นอน\”
สิ่งนี้ช่วยให้ข้อคิดว่า \”อะไรก็ตามที่หน้าตาดุร้าย ไม่ได้หมายความว่า จะเลวร้าย
ตามใบหน้าไปด้วย แต่หญิงสาวที่หน้าตาดี ๆ แล้วไม่มีมดลูกนี่สิ มันรู้สึกแปลก ๆ ชอบกล!…\”
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
พ.ต.อ.นพ.เสรี ธีรพงษ์ ผู้เขียน