ท้องทีไร แท้งทุกที (RECURRENT ABORTION)

ท้องทีไร แท้งทุกที (RECURRENT ABORTION)

การสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของครอบครัว คือ การสูญเสีย ลูก แม้ว่าจะยังไม่ได้กำเนิด
ออกมาก็ตาม การสูญเสียทารกในครรภ์ ขณะอายุครรภ์น้อยกว่า 20 สัปดาห์ เรียกว่า การแท้ง
บุตร (ABORTION)
โดยทั่วไป การแท้งบุตรเองตามธรรมชาติ (SPONTANEOUS ABORTION) พบ
ประมาณร้อยละ 15 ส่วนใหญ่เกิดขึ้นภายใน 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ และมักจะเป็นสาเหตุ
จากตัวทารกเอง (FETAL FACTOR) ที่มีโครโมโซมผิดปกติ (พบถึงร้อยละ 50-60 ของการแท้ง
ทั้งหมด) ดังนั้น จึงเป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่า ไม่จำเป็นต้องหาสาเหตุ เพียงแต่อธิบายให้คนไข้
รู้ว่า ไม่ควรจะเสียใจมากเกินไป เพราะหากได้ทารกที่พิการคลอดออกมา จะทำให้ต้องเป็นภาระ
และทุกข์ใจมากยิ่งขึ้นอีก นอกจากนั้น การตั้งครรภ์ครั้งต่อไปจะไม่เกี่ยวกับการแท้งบุตรครั้งนี้
หมายความว่า ส่วนใหญ่การตั้งครรภ์ครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นมักจะปรกติ
สำหรับในกรณีที่มีการแท้งบุตรติดต่อกันหลายครั้ง (REPEATED ABORTION) โดย
เฉพาะอย่างยิ่งมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไป (RECURRENT ABORTION) ควรจะได้หาสาเหตุทุกราย
เพื่อหาทางไม่ให้เกิดการแท้งซ้ำอีก ซึ่งส่วนใหญ่สามารถแก้ไขได้ และประสบผลสำเร็จค่อนข้างดี
ได้ทารกที่ปกติออกมา
KNUDSEN และคณะ ได้ทำการศึกษาการตั้งครรภ์จำนวน 300,500 ครั้ง พบว่า มี
อัตราการแท้งโดยเฉลี่ยร้อยละ 11 เมื่อมีการแท้งซ้ำเกิดเพิ่มขึ้นหนึ่งครั้ง โอกาสที่จะแท้งครั้ง
ต่อไปจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณร้อยละ 10 โดยมีอัตราการแท้งเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 16,25,45 และ
54 ตามลำดับภายหลังจากมีการแท้งซ้ำ (REPEATED ABORTION) เกิดขึ้น 1,2,3 และ 4 ครั้ง
ติดต่อกัน
เทคโนโลยี่สมัยใหม่ช่วยเหลือในการควบคุมดูแลการตั้งครรภ์ได้มากทีเดียว SIMPSON
พบว่า อุบัติการของการแท้งบุตรภายหลังจากใช้อัลตราซาวน์วินิจฉัยว่า ทารกมีชีวิตขณะอยู่ครรภ์
8-12 สัปดาห์ มีเพียงร้อยละ 3.2 เท่านั้น นั่นหมายถึงว่า ทารกที่ โครโมโซม ผิดปกติส่วนใหญ่
จะแท้งออกมาก่อนอายุครรภ์ 8 สัปดาห์

สาเหตุและการพยากรณ์โรค

••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••
สาเหตุ (อุบัติการณ์) โอกาสที่จะได้ทารกปกติ แนวทางการรักษา
••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••
I. สาเหตุที่สามารถตรวจหาได้
1. สาเหตุทางพันธุกรรม พบร้อยละ ร้อยละ 32 การตรวจวินิจฉัยพันธุกรรมก่อน
25 คลอด (PRENATAL DIAGNOSIS)
2. สาเหตุจากตัวมดลูก พบร้อยละ ร้อยละ 60-70
15
2.1 มีผนังกั้นภายในโพรงมดลูก การผ่าตัด (METROPLASTY)
(UTERUS SUBSEPTUS)
2.2 ปากมดลูกหลวม การเย็บปากมดลูก (CERVICAL
(INCOMPETENT CERVIX) CERCLAGE)
2.3 เนื้องอกมดลูก การผ่าตัด (MYOMECTOMY)
(MYOMA UTERI)
2.4 มีพังผืดในโพรงมดลูก การส่องกล้องเข้าไปภายในโพรง
(ASHERMAN’S SYNDROME) มดลูกเพื่อทำลายพังผืด
(HYSTEROSCOPIC LYSIS OF
SYNECHIAE)
2.5 ความผิดปกติแต่กำเนิดของ การผ่าตัดตกแต่ง (METROPLASTY)
มดลูก (CONGENITAL
MALFORMATION OF THE
UTERUS)
3. สาเหตุจากภาวะฮอร์โมน พบ ร้อยละ 90 * ให้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน
ร้อยละ 23 เสริมเพิ่มเติมโดยวิธีฉีดเข้า
* ภาวะฮอร์โมนจากรังไข่ กล้ามเนื้อหรือเหน็บทางช่องคลอด
ภายหลังไข่ตก บกพร่อง * ให้ยาลดสารโปรแลคติน ในกรณี
(CORPUS LUTEUM DEFECT) ที่มีสารตัวนี้ในกระแสเลือดสูง
II. สาเหตุที่ไม่สามารถตรวจหาพบ
(UNKNOWN ETIOLOGY) พบ ร้อยละ 62 * การตรวจวินิจฉัยพันธุกรรมก่อน
ร้อยละ 37 คลอด (PRENATAL DIAGNOSIS)
1. กลุ่มที่มี โครโมโซม ผิดปกติ * หลีกเลี่ยงการใช้ ไข่ หรือ อสุจิ ที่มี
เกิดขึ้นซ้ำ ๆ กัน (RECURRENTร้อยละ 32 อายุการใช้งานแก่เกินไป
ANEUPLOIDY) ซึ่งอาจมีสาเหตุ
จาก ไข่ตกช้า,อายุแม่มาก,การ
ปฏิสนธิเกิดขึ้นช้าเกินไป
2. กลุ่มที่มี โครโมโซม ปกติ แต่ * ศึกษาเกี่ยวกับภาวะฮอร์โมนใน
มีการแท้งซ้ำเกิดขึ้นบ่อย ๆ ร่างกายเป็นระยะ ๆ และให้
(RECURRENT EUPLOIDY) ฮอร์โมน โปรเจสเตอโรน เสริม
ซึ่งอาจมีสาเหตุจาก การสร้าง เพิ่มเติม
ฮอร์โมนของรังไข่บกพร่อง, * การศึกษาเกี่ยวกับภาวะภูมิคุ้มกัน
ภาวะภูมิต้านทานผิดปกติ, (IMMUNOLOTIC STUDYES)
สิ่งแวดล้อมผิดปกติ(การติดเชื้อ, * การให้คำปรึกษาก่อนตั้งครรภ์
เหล้า,บุหรี่)

•••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••

สาเหตุที่สามารถตรวจหาได้ (RECOGNIZABLE CAUSES)
I. สาเหตุทางด้านพันธุกรรม (GENETIC) พบประมาณร้อยละ 25 ครึ่งหนึ่ง
ของสาเหตุ สามารถตรวจพบได้ว่าเกิดจาก โครโมโซม ของพ่อแม่ผิดปกติ อีกครึ่งหนึ่งเกิดจาก
หลายเหตุปัจจัย (MULTIFACTORIAL FACTOR) ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบพบได้แน่ชัด อันอาจเป็น
ผลมาจาก
– ความผิดปกติของ โครโมโซม ที่เกิดขึ้นในระหว่างแบ่งตัว
– อายุของแม่มากกว่า 35 ปี
– ฤดูกาลขณะเริ่มตั้งครรภ์
– เพศของทารก
– การติดเชื้อของมารดา
– การสัมผัสกับรังสีเอ็กซเรย์
– การปฏิสนธิของเซลล์สืบพันธุ์ที่เกิดขึ้นช้ากว่าเวลาอันควร (DELAYED
FERTILIZATION)
จากการประชุมที่ เจนิวา ใน ค.ศ.1966 (พ.ศ.2509) มีหลายรายงานเกี่ยวกับเรื่อง
นี้ สรุปได้ว่า อุบัติการที่พ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งมี โครโมโซม ผิดปกติแฝงอยู่ พบประมาณร้อยละ 4-
14 ของครอบครัวทั้งหมดที่มีการแท้งซ้ำบ่อย ๆ (RECURRENT ABORTION) ดังนั้น จึงจำเป็น
ที่จะต้องตรวจหา โครโมโซม ของคู่สามีภรรยาเสมอ เมื่อมีการแท้งซ้ำ (RECURRENT ABORTION)
เกิดขึ้น
แนวทางการรักษา ในกรณีที่ฝ่ายหญิงมี โครโมโซม ผิดปกติ อาจแก้ไขด้วยการใช้วิธี
\”อุ้มบุญ\” ซึ่งในที่นี้หมายถึง การใช้ \”ไข่\” จากสตรีอื่น แต่ตัวเองเป็นคนอุ้มท้อง ส่วนในกรณีที่
ฝ่ายชายมี โครโมโซมผิดปกติ ก็สามารถใช้ \”น้ำเชื้อ\” จากชายอื่นมาทดแทนผสมเทียมให้ได้ใน
ทำนองเดียวกัน
สำหรับ ในกรณี \”ไข่\” หรือ \”ตัวอสุจิ\” มี โครโมโซม ผิดปกติ ปัจจุบันยังไม่มีวิธีแก้ไข
มีรายงานว่า การปฏิสนธิที่เกิดขึ้นภายหลังจากไข่ตกนานเกินกว่า 24-48 ชั่วโมง มีอัตราการแท้ง
สูง ดังนั้น จึงควรมีเพศสัมพันธ์ให้ใกล้เคียงกับวันเวลาที่มีไข่ตกมากที่สุดหรือร่วมเพศบ่อยขึ้นในช่วง
ระยะเวลาดังกล่าว
ปัจจุบัน เราสามารถตรวจวินิจฉัยความผิดปกติของ โครโมโซม ขณะตั้งครรภ์ระยะแรก ๆ
ได้ ด้วยการดูดเอาเซลล์รกขณะตั้งครรภ์ 7-8 สัปดาห์ หรือเจาะดูดเอาน้ำคร่ำขณะอายุครรภ์
14-16 สัปดาห์ มาเพาะเลี้ยง โครโมโซม หากพบว่า มีความผิดปกติ ก็สามารถทำแท้งได้ทันที
และปลอดภัยแก่สุขภาพของมารดา
II. สาเหตุจากตัวมดลูก (UTERINE FACTOR) ส่วนใหญ่เกิดจากสภาพโครงสร้าง
ของมดลูกผิดปกติ เช่น
2.1 มดลูกมีเนื้องอก (MYOMA UTERI) มีกล่าวไว้แล้วในบทก่อน (เล่ม 1)
2.2 โพรงมดลูกมีพังผืด (INTRAUTERINE ADHESION)
2.3 ปากมดลูกหลวม (INCOMPETENT CERVIX)
2.4 ความผิดปกติแต่กำเนิดของมดลูก (CONGENITAL MALFORMATION OF
THE UTERUS)
ภาวะพังผืดในโพรงมดลูก (INTRAUTERINE ADHESION OR ASHERMAN’S SYNDROME)
เกิดจากการขูดมดลูกรุนแรงเกินไป หรือขูดขณะที่มีการอักเสบภายในโพรงมดลูก
แนวทางการรักษา คือ การส่องกล้องเข้าไปในโพรงมดลูก แล้วใช้เครื่องมือพิเศษ
ทำเป็นกรรไกรเล็ก ๆ ตัดเลาะพังผืด หรือจะใช้วิธีจี้ตัดด้วยไฟฟ้า (ELECTRIC CUATERY) ก็ได้
ผลสำเร็จภายหลังผ่าตัดจะมีอัตราการตั้งครรภ์ร้อยละ 23-87
ภาวะปากมดลูกหลวม (INCOMPETENT CERVIX) สาเหตุเกิดจาก
1) * คอมดลูกมีส่วนประกอบของกล้ามเนื้อน้อยเกินไป ทำให้คอมดลูก (CERVIX)
อ่อนแอ
2) * ภายหลังการผ่าตัดปากมดลูกชนิดเป็นรูปกรวย (CONIZATION) หรือขยายปาก
มดลูกรุนแรงเกินไป
ผู้ป่วยจะมีประวัติแท้งซ้ำบ่อย ๆ (REPEATED ABORTION) ในไตรมาสที่ 2 ของการ
ตั้งครรภ์ (อายุครรภ์ 3-6 เดือน) ลักษณะของการแท้ง มักจะเริ่มจากมีความรู้สึกถ่วงท้องน้อย
และมีของเหลวคล้ายตกขาวจำนวนมากไหลออกมาจากช่องคลอดก่อน 1-2 วัน จากนั้น ถุงน้ำจะ
ย้อยโผล่ออกมาจากปากมดลูก เมื่อถุงน้ำแตก จึงมีการเจ็บครรภ์และแท้งเด็กออกมาในเวลาค่อน
ข้างรวดเร็ว
แนวทางการรักษา ผ่าตัดและผูกรัดคอมดลูก (CERVICAL CERCLAGE) หากผ่าตัดใน
ระหว่างตั้งครรภ์ ควรทำในไตรมาสที่ 2 ขณะอายุครรภ์ประมาณ 14-16 สัปดาห์ เนื่องจาก
ทารกที่มีชีวิตรอดจนถึงไตรมาสสองได้ มักจะมีโครโมโซมปรกติ ทารกที่มีโครโมโซมผิดปรกติ
ส่วนใหญ่จะแท้งไปภายในไตรมาสแรก (3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์) เท่านั้น นอกจากนั้น การ
ผ่าตัดในไตรมาสที่ 2 ยังมีผลข้างเคียง (เช่น แท้งบุตร,จากยาดมสลบ..) เกิดขึ้นน้อยมาก
ผลสำเร็จจากการรักษา ทำให้อัตราการตั้งครรภ์จนทารกโตรอดชีวิต จากเดิมก่อน
ผ่าตัดร้อยละ 20 เพิ่มเป็นร้อยละ 70-80

ความผิดปรกติแต่กำเนิดของมดลูก (CONGENITAL MALFORMATION OF THE UTERUS)
มดลูกของสตรี พัฒนาการมาจากท่อ (MULLERIAN TUBES) 2 ท่อ มาเชื่อมต่อกัน
ตรงกลาง ในลักษณะคล้าย ปาท่องโก๋ ส่วนบนของท่อ (MULLERIAN TUBES) จะพัฒนากลายเป็น
มดลูกและท่อนำไข่ ส่วนล่างของท่อ (MULLERIAN TUBES) จะพัฒนาเจริญเป็นช่องคลอดส่วนบน
หากกระบวนการพัฒนาในระยะตัวอ่อนผิดปรกติ ผลที่ได้อาจจะเป็น
1. ไม่มีมดลูกหรือเป็นมดลูกขนาดจิ๋ว (MULLERIAN AGENESIS OR HYPOPLASIA)
2. มดลูกแฝด (DOUBLE UTERUS)
3. มดลูกเจริญเติบโตค่อนข้างสมบูรณ์จากท่อ (MULLERIAN TUBE) เพียงข้างเดียว
(UNICORNUATE UTERUS)
4. มดลูกที่มีลักษณะเว้าตรงกลางส่วนยอดมดลูก ลักษณะคล้ายหัวใจ (BICORNUATE
UTERUS)
5. มดลูกที่มีผนังกั้นตรงกลางภายในโพรงมดลูก (SEPTATE UTERUS)
แนวทางการรักษา โดยการผ่าตัดตกแต่ง (METROPLASTY) ซึ่งจะทำได้เฉพาะมดลูก
แฝดชนิดไม่สมบูรณ์ (UTERINE DIDELPHYS),มดลูกรูปหัวใจ (BICORNUATE) และ มดลูกที่มี
ผนังกั้นในโพรงมดลูก (SEPTATE UTERUS) เท่านั้น ส่วนมดลูกที่ผิดปรกติชนิดอื่นนั้น จะต้องให้
การดูแลเป็นพิเศษเวลาตั้งครรภ์ เนื่องจากอาจจะเกิดเหตุการณ์ผิดปรกติขึ้นได้ เช่น แท้งบุตร,
คลอดก่อนกำหนด หรือตกเลือดภายในช่องท้องคล้ายกับท้องนอกมดลูก เป็นต้น
III. สาเหตุทางด้านฮอร์โมน (ENDOCRINE FACTORS)
ภาวะฮอร์โมนจากรังไข่บกพร่องภายหลังไข่ตก (LUTEAL PHASE INSUPFICIENCY)
พบเป็นสาเหตุของการแท้งเอง (SPONTANEOUS ABORTION) ประมาณร้อยละ 3.5
ของสตรีมีบุตรยาก แต่อุบัติการจะเพิ่มลงขึ้นเป็นร้อยละ 30 ในสตรีที่มีการแท้งซ้ำบ่อย ๆ
(REPEATED ABORTION) จึงนับว่า ภาวะนี้ มีความสำคัญไม่ใช่น้อยทีเดียว
สาเหตุ อาจเกิดจากกระบวนการควบคุมการเจริญเติบโต และการตกไข่ที่ไม่เป็น
ไปตามปรกติ โดยอาจเป็นผลมาจากหรือเกิดร่วมกับ
* การกระตุ้นไข่ด้วยยาบางชนิด เช่น CLOMIPHENE CITRATE
* ภาวะที่มีฮอร์โมน โปรแลคติน สูงในกระแสเลือด (HYPERPROLACTINEMIA)
* การออกกำลังกายที่มากเกินไป เช่น สตรีนักวิ่งมาราธอน
* ภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นมากเกินไป (OVARIAN HYPERSTIMULATION)
* โรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคตับ โรคไต หรือโรคหัวใจที่เป็นมานาน ๆ เป็นต้น
* ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (ENDOMETRIOSIS) ทั้งขณะที่โรคกำลังดำเนิน
อยู่และภายหลังการรักษาด้วยยา DANAZOL
* ภาวะร่างกายที่มีฮอร์โมนเพศชายสูงเกินไป (HYPERANDROGENISM)
การวินิจฉัย
1) ลักษณะอุณหภูมิพื้นฐานที่สูงขึ้นภายหลังไข่ตก มักจะน้อยกว่า 0.3 องศาเซลเซียส
และคงอยู่นานน้อยกว่า 11 วัน (ซึ่งโดยปรกติ อุณหภูมิจะสูงขึ้นอย่างน้อย 0.3 องศาเซลเซียส
และคงอยู่นานประมาณ 13-14 วัน)
2) หากขูดเยื่อบุโพรงมดลูกในระยะหลังไข่ตกไปส่งตรวจจะพบว่า มีการเปลี่ยนแปลง
รูปร่างเจริญเติบโตน้อยกว่าความเป็นจริง 2 วันหรือมากกว่า
3) ระดับของฮอร์โมน โปรเจสเตอโรน ในเลือด 7 วัน หลังจากไข่ตก มีค่าต่ำกว่า
5 นาโนกรัม/มิลลิลิตร (ค่าปรกติในระยะนี้ จะไม่ต่ำกว่า 10 นาโนกรัม/มิลลิลิตร)

แนวทางการรักษา เนื่องจากสาเหตุของความผิดปรกติจากภาวะนี้ มีหลายปัจจัย บางปัจจัยเป็น
ความผิดปรกติที่เกิดร่วมกัน ดังนั้น จึงควรค้นหาสาเหตุร่วมเหล่านั้นและรักษาไปพร้อม ๆ กันด้วย
เช่น ตรวจหาระดับของฮอร์โมน โปรแลคติน และฮอร์โมนจากต่อมธัยรอยด์ นอกจากนั้น การแท้ง
จากภาวะนี้มักเกิดภายใน 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ จึงไม่ควรลืมว่า มีสาเหตุอื่น ๆ เช่น
ความผิดปรกติจาก โครโมโซม ของทารก ที่มีการแท้งในเวลาเดียวกัน การรักษาจึงควรเน้นถึง การ
วินิจฉัยที่แน่นอน เพื่อการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
การรักษาภาวะนี้ กระทำได้โดย
1. ให้ฮอร์โมน โปรเจสเตอโรน ทดแทนที่ร่างกายขาดไป
2. ให้สาร HCG (HUMAN GONADROTROPIC HORMONE) เพื่อกระตุ้นการทำงาน
ของรังไข่บริเวณที่ไข่ตก (CORPUS LUTEUM) ให้ทำงานสร้างฮอร์โมน โปรเจสเตอโรนต่อไป
3. ให้ยา BROMOCRIPTINE ในกรณีที่พบว่ามีระดับ โปรแลคติน สูงในกระแสเลือด
4. รักษาโรคอื่น ๆ ที่เกิดร่วมด้วยหรือเป็นผลให้เกิดภาวะนี้
สำหรับการให้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนนั้น ให้ได้ 2 วิธี (ซึ่งเราจะให้ทันทีที่วินิจฉัย
ได้แน่นอนว่า ไข่ตกแล้ว เพราะถ้าให้เร็วเกินไป จะมีผลระงับการตกไข่)
1. โดยการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
2. โดยการเหน็บทางช่องคลอดหรือทางทาวารหนัก
ผลสำเร็จ ในการรักษาสตรีมีบุตรยากที่เกิดจากภาวะนี้ จะมีอัตราการตั้งครรภ์
ประมาณร้อยละ 37-54 ส่วนในกรณีที่มีประวัติแท้งซ้ำบ่อย ๆ (RECURRENT ABORTION) อัตรา
การตั้งครรภ์และคลอดทารกปรกติ จะสูงถึงร้อยละ 81

สาเหตุที่ไม่สามารถตรวจพบ (UNRECOGNIZABLE CAUSES)
กลุ่มที่โครโมโซมผิดปรกติ (RECURRENT ANEUPLOIDY) เป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดของ
การแท้งซ้ำบ่อย ๆ ในคู่สามีภรรยาที่มี โครโมโซม ปรกติ และไม่มีประวัติคลอดบุตรพิการแต่กำเนิด
มาก่อน
ความผิดปรกติของ โครโมโซม ในทารกมีกลไกการเกิดได้อย่างไร
พ่อแม่น่าจะเป็นแหล่งที่ก่อให้เกิดความผิดปรกติของ โครโมโซม ในทารกเหล่านี้ แม้ว่า
โครโมโซม ของพ่อแม่เองจะปรกติก็ตาม
* กระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ของหญิงและชายอาจจะเกิดความผิดปรกติขึ้น ในขั้น
ตอนใดขั้นตอนหนึ่ง
* \”ไข่\” ที่ได้รับการปฏิสนธิอาจจะแก่เกินไป ซึ่งมีสาเหตุมาจากอายุของสตรีที่มาก
หรือการตกไข่ที่ช้า
* กระบวนการปฏิสนธิหรือการแบ่งตัวภายหลังการปฏิสนธิใหม่ ๆ อาจจะผิดปรกติ ทำ
ให้ได้ \”ตัวอ่อน\” (ทารก) ที่มี โครโมโซม ผิดปรกติไปด้วย

กลุ่มที่มี โครโมโซม ปรกติแต่มีการแท้งซ้ำบ่อย ๆ (RECURRENT EUPLOIDIC ABORTION)
อาจจะเกิดจาก
* การทำงานของรังไข่บริเวณที่ไข่ตกบกพร่อง (UNDETECTED CORPUS LUTEUM
FAILURE) ในขณะที่ตั้งครรภ์ใหม่ ๆ
* สาเหตุทางด้านภูมิคุ้มกัน (IMMUNOLOGIC ETIOLOGY) ซึ่งมีมากมายและเป็นที่
สนใจศึกษาค้นคว้ากันอย่างมากในปัจจุบัน
* สาเหตุจากสิ่งแวดล้อม (ENVIRONMENTAL PACTORS)
– การติดเชื้อ อย่างทันทีทันใด ในกลุ่ม ซิฟิลิส (SYPHILIS),ไมโครพลาสมา
(MYCOPLASMA),คลาไมเดีย (CLAMYDIA) และอื่น ๆ
– รังสีเอ็กซเรย์ในปริมาณสะสมที่มากอย่างมีนัยสำคัญ (ปรกติจะไม่เกิน 180
มิลลิแรด)
– แก๊สจากยาดมสลบ (ANESTHETIC GAS) พบมากในพยาบาลดมยาและพยาบาล
ห้องผ่าตัดที่ตั้งครรภ์
– การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอร์มากเกินไป ก็ถือเป็นสาเหตุของการแท้งซ้ำบ่อย ๆ
เช่นกัน

แนวทางรักษาสำหรับกลุ่มที่หาสาเหตุไม่พบ
ไม่ว่าจะอย่างไร จำเป็นต้องตรวจหาสาเหตุทางด้านพันธุกรรม (GENETIC),โครง
สร้างกายวิภาค (ANATOMY) และฮอร์โมน (ENDOCRINE) ก่อนเสมอ เพื่อว่า อาจจะพบสาเหตุ
ซึ่งแต่เดิมมาค้นหาไม่พบ จากนั้นจึงทำการรักษาอย่างเป็นขั้นตอนไป ขณะเดียวกัน ต้องพยายาม
มองหาสาเหตุอื่นอีก เพราะคนไข้ในกลุ่มนี้มักมีหลายเหตุปัจจัย
* สตรีเหล่านี้ ควรตรวจดูอุณหภูมิกายพื้นฐาน (BASAL BODY TEMPERTURE) ติดต่อ
กันหลาย ๆ เดือน เพื่อศึกษาช่วงเวลาไข่ตกที่แน่นอนและวางแผนการตั้งครรภ์
* ในกรณีที่ไข่ตกช้าหรือไม่ตก ต้องหมั่นมารับการรักษาและกระตุ้นให้ไข่ตก เพื่อให้
\”ไข่\” ที่ปฏิสนธิมีอายุการใช้งานอยู่ในช่วงที่เหมาะสม
* ควรทำการทดสอบการปฏิสนธิระหว่าง \”ไข่\” กับ \”เชื้ออสุจิ\” หากมีปัญหาอาจ
รักษาแก้ไขได้ด้วยวิธี \”อิ๊กซี่\” (เจาะ \”ไข่\” ใส่ \”เชื้ออสุจิ\” เข้าไปเพียงตัวเดียว)
* สามีไม่ควรงดมีเพศสัมพันธ์กับภรรยานาน ๆ ก่อนไข่ตก เพราะอาจมี \”อสุจิ\” ที่
อายุการใช้งานแก่เกินไป ปฏิสนธิกับ \”ไข่\” แล้วได้ \”ตัวอ่อน\” ที่มี โครโมโซม ผิดปรกติ (PETAL
ANEUPLOIDY)
* ทั้งสามีและภรรยา ควรได้รับยาจำพวก DOXYCYCLINE เพื่อทำลายเชื้อโรคที่อาจ
เป็นสาเหตุ โดยรับประทานทุกวัน ในช่วง 10 วันแรกของรอบเดือน ในระยะเริ่มแรกของการ
รักษา
* ทำการทดสอบเพื่อให้ทราบผลการตั้งครรภ์เร็วที่สุด เมื่อทราบว่า \”ตั้งครรภ์\” ควร
ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด เช่น
– การให้ฮอร์โมน โปรเจสเตอโรน ต่อไป
– การตรวจการทำงานของต่อมธัยรอยด์ตามความเหมาะสม
– การตรวจดูด้วยเครื่องอัลตราซาวน์อย่างสม่ำเสมอ
– หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์
– เจาะดูดน้ำคร่ำเพาะเลื้อง โครโมโซม เพื่อตรวจความผิดปกติของทารก
* การผสมเทียมโดยใช้ เชื้อบริจาค อาจเป็นทางเลือกสำหรับคู่สามีภรรยาที่สงสัย
อย่างมากว่า เป็นสาเหตุจากสามี ที่ก่อให้เกิดทารกมี โครโมโซม ผิดปรกติ (RECURRENT PETAL
AANEUPLOIDY)
จากการวางแผนที่ดี และมีการติดตามอย่างเหมาะสม ตลอดการตั้งครรภ์ในระยะแรก
ทำให้ได้ผลสำเร็จคลอดทารกปรกติถึงร้อยละ 62 ทีเดียว

สตรีที่ตั้งใจจะมีลูก พอตั้งท้องขึ้นมา จะรู้สึกมีความสุขมากอย่างบอกไม่ถูก แต่เธอจะรู้
หรือไม่ว่า อุปสรรค์ข้างหน้านั้นยังมีรออยู่อีกมาก โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์
ซึ่งจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการแท้งได้ทุกเมื่อ ดังนั้น จึงควรรีบฝากครรภ์และหาผู้ดูแลใกล้ชิดทันที่ที่
ทราบว่า \”ท้อง\”
สำหรับ คนที่มีประวัติแท้งซ้ำบ่อย ๆ (RECURRENT ABORTION) อย่าเพิ่งสิ้นหวัง
เพราะมีแนวทางแก้ไขมากมายทั้งกลุ่มที่มีสาเหตุและหาสาเหตุไม่พบ ด้วยวิทยาการและเทคโนโลยี่
ด้านการสืบพันธุ์สมัยใหม่ เชื่อว่า จะช่วยสร้างความหวังของสตรีที่แท้งบุตรบ่อย ๆ เหล่านี้ ให้เป็น
จริงได้โดยไม่ยากลำบากนัก

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
พ.ต.อ.นพ.เสรี ธีรพงษื ผ้เขียน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *