ปรัชญาคนขับรถแทกซี่

ปรัชญาคนขับรถแทกซี่

                ไม่กี่วันก่อน ตอนเช้ามืด.. ข้าพเจ้าได้นั่งรถแทกซี่ จากโรงพยาบาลบเอกชนกลับบ้านหลังจากเลิกเวร.. ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถ ข้าพเจ้าก็เอ่ยปากถามไปตามเรื่อง ถึงภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันของปี พ.ศ. 2558 และ 2559 ว่า ‘เป็นยังไงบ้าง กับรายได้?’ คำตอบที่ได้ ทำให้ ข้าพเจ้าแปลกใจว่า คนขับรถแทกซี่ เป็นนักปรัชญาหรือเปล่า?? เพราะเขาพูดจาได้เฉียบขาด มีเหตุ มีผล มากจริงๆ

คนขับรถแทกซี่ พูดว่า ‘ ทุกสิ่งทุกอย่าง ในวงการธุรกิจ มักเป็นไปตามกฎของ demand & supply รายได้จากการขับรถแทกซี่ก็เช่นกัน..ย่อมหนีไม่พ้นจากอุปสงค์และอุปทาน..เมื่อมีรถแทกซี่ออกมาในท้องถนนมากมาย คนขับก็ต้องมีรายได้น้อยลง เป็นธรรมดา นอกจากนั้น ยังมีคู่แข่งเป็นรถพาหนะอื่นๆอีกครับ..รถตู้ขาว เข้ามาแย่งเส้นทางยาวๆ ..รถมอเตอร์วิ่งว่อนรับผู้โดยสารยามรถติดและเส้นทางสั้นๆ ..รถสองแถววิ่งเก็บเกี่ยวในระยะทางสั้นๆและกลางๆ..สารพัด สารเพ ของการแข่งขันหาลูกค้า…ไหนเลย ประเทศไทยจะมีสภาพเศรษฐกิจที่เลวร้ายลงทุกวัน จากการที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศ ไม่ค่อยเข้ามาไทยด้วยปัจจัยข่าวร้ายๆ และยังมี..การย้ายถิ่นของบริษัทอุตสาหกรรมหนัก (Heavy Industry) ไปยังประเทศ เวียตนาม กัมพูชาและพม่า..อีกจำนวนมาก อันเป็นผลมาจากค่าแรงที่สูงและจากความเสียหายของภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2554 ’

ข้าพเจ้าฟังคนขับแทกซี่จนเพลิน ก็นึกถึงเรื่องราวของการผ่าตัดคนไข้ผ่านกล้องทางนรีเวช ที่เพิ่งผ่านมา ว่า มีปัญหาอะไรบ้าง จะคล้ายคลึงกับปัญหาคนขับแทกซี่รายนี้หรือเปล่า?

คนไข้รายนี้ เป็นผู้หญิงอายุ 40 ปี มีครอบครัวแล้ว..แต่ไม่มีประวัติคลอดบุตรที่แน่นอน ข้าพเจ้าถามย้ำกับพยาบาลในห้องผ่าตัดว่า ‘คุณสุกัญญา เคยคลอดบุตรมาก่อนหรือไม่?’ การที่ข้าพเจ้าถามเช่นนั้น ก็เพราะว่า ถ้าคุณสุกัญญา เคยคลอดบุตรมาก่อน.. ช่องคลอดเธอจะกว้างขวางพอ ที่จะตัดเลาะเอาเนื้องอกออกทางช่องคลอดได้อย่างสะดวก..โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษปั่นและดูดชิ้นเนื้อออกทางหน้าท้อง..

พยาบาลห้องผ่าตัดคนหนึ่งตอบว่า ‘ไม่ทราบคะ..แต่เธอเคยผ่าตัดไส้ติ่ง’ คำตอบนั้น ไม่ได้ตอบคำถามชัดเจน..เพียงแต่พอบอกได้ว่า ‘ส่วนขวาล่างของช่องท้องคุณสุกัญญาจะมีพังผืด ไม่มากก็น้อย’ ซึ่งเมื่อเจาะท้องเข้าไปตรงสะดือของคุณสุกัญญา ก็มองเห็นภายในช่องท้องด้านขวาล่างของคนไข้ มีพังผืดเช่นนั้นจริงๆ แต่มีไม่มากนัก..ทำให้ข้าพเจ้าใช้Trocar ขนาด 5 มิลลิเมตร เจาะช่องท้องด้านขวาล่างอย่างสะดวกและได้ตำแหน่งที่ต้องการ หลังจากนั้น ข้าพเจ้าก็ออกคำสั่งว่า ‘เอาเตียงผ่าตัดขึ้น และเอาด้านหัวคนไข้ลงต่ำครับ’ จากนั้น ก็ให้แพทย์ทางด้านล่าง ที่นั่งอยู่ระหว่างขาคนไข้.. ช่วยกระดกมดลูกขึ้น..

ภาพที่เห็น..คือ มดลูกมีขนาดใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย ขนาดประมาณอายุครรภ์ 8 ถึง 10 สัปดาห์ ..แต่ที่สำคัญคือ ด้านหน้าบริเวณ lower segment ของมดลูก..มีพังผืดอัดแน่น กล่าวคือ ส่วนของกระเพาะปัสสาวะของคนไข้ยื่นเลยขึ้นมาเกาะ บนพื้นผิวมดลูกส่วนล่าง มากกว่าปกติ..ตรงนี้สิ ..น่ากลัว..โดยเฉพาะสำหรับคุณหมอมือใหม่ที่เพิ่งผ่าตัดผ่านกล้อง..ถือว่า มีความเสี่ยงและอันตรายมาก..

อะไร? ที่หมายถึงความเสี่ยงและอันตราย?? อันตรายที่ว่านั้น คือ การบาดเจ็บหรือฉีกขาดของกระเพาะปัสสาวะ (Bladder injuries) ของคุณสุกัญญา…ทำไมจึงเกิดการบาดเจ็บหรือฉีกขาดของกระเพาะปัสสาวะได้?? ทั้งนี้ เพราะ คุณสุกัญญา ต้องเคยตั้งครรภ์คลอดลูกโดยการผ่าตัดคลอดมาก่อนอย่างแน่นอน การผ่าตัดคลอดบุตรบริเวณส่วนล่างของมดลูกนั้น เราจะผ่าเปิดและเย็บปิดแผลส่วนล่างของมดลูก (Lower uterine segment) โดยกรีดมีดลงในแนวขวางของมดลูกส่วนล่าง (low transverse incision)

 เมื่อทำคลอดทารกน้อยเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เย็บปิดบริเวณตรงนี้เอง โดยจะเย็บเอา Peritoneum หรือเยื่อบุลำไส้ ที่คลุมกระเพาะปัสสาวะ ไปปิดแผลที่เย็บบนเนื้อมดลูก ..ทำให้เกิดการดึงรั้งเอากระเพาะปัสสาวะไปคลุมไว้ที่มดลูกส่วนล่าง..ดังนั้น ในการผ่าตัดผ่านกล้องต่อมา พอเราใช้เครื่องมือกรีดมดลูกส่วนล่างทางด้านหน้า ก็จะทะลุเข้ากระเพาะปัสสาวะพอดี..วิธีการแก้ไขจริงๆ  ก็ไม่ยาก สำหรับคุณหมอที่มีประสบการณ์ ซึ่งจะได้กล่าวต่อไป

ในสถานการณ์เช่นนี้ ข้าพเจ้าตัดสินใจเลือกที่จะตัด เส้นเอ็น ที่ชื่อ Round ligaments  ทั้งสองข้างให้ขาดจากกันเสียก่อน โดยเลือกตัดเส้นเอ็นให้ห่างจากขั้วมดลูก (Uterine corneal part) ประมาณ 2 เซนติเมตร  จากนั้น ก็เลาะตัดแหวกเนื้อเยื่อตรงนั้น ให้เห็นพื้นล่างที่ต่ำลงไปจนทะลุไปที่ช่องว่างด้านหลัง จนเห็นลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ที่ซ่อนอยู่ทางด้านล่าง…..จากนั้น ข้าพเจ้าก็เลือกตัด เส้นเอน้น็็นที่ชื่อ Ovarian ligament proper พร้อมกับตัดเอาท่อนำไข่ออกทั้งสองข้างด้วย คราวนี้ มาถึงจุดสำคัญของการผ่าตัด คือ การใช้เครื่องจี้ไฟฟ้า ตัดด้านล่างและด้านหลังของตัวมดลูกเหนือต่อเอ็น Utero – sacral ligaments เล็กน้อยในแนวขนาน (Horizontal) จนทะลุเข้าช่องคลอด ซึ่งในตอนนี้เอง ข้าพเจ้าจะเห็นขอบของท่อวงแหวนเครื่องมือสีน้ำเงิน..ซึ่งถือเป็น landmark สำคัญของช่องคลอด..  ต่อจากนั้น ข้าพเจ้ายังคงจี้ตัดส่วนของมดลูกส่วนล่างทางด้านหลัง (Posterior aspect of lower uterine segment) ทะลุเข้าช่องคลอดย้อนขึ้นไปเรื่อยๆ จนเลยมาถึง..บริเวณด้านข้างของมดลูก (Lateral aspect)..ซึ่งมีเส้นเลือดใหญ่ ชื่อ Uterine Arteries ซ่อนตัวอยู่…

ข้าพเจ้าใช้เครื่องจี้ไฟฟ้าชนิดที่เป็นตัวปิดเส้นเลือดด้วยความร้อน (Seal uterine vessels) ชื่อว่า  Ligature  จี้ตัดเส้นเลือดใหญ่ (Uterine arteries) ทางด้านข้างของคอมดลูก (Lateral aspect of lower uterine segment) ทั้งสองข้าง

ช่วงสำคัญที่สุดของการผ่าตัดผ่านกล้องของคุณสุกัญญา คือ การจี้ ตัด เลาะ เอาส่วนของกระเพาะปัสสาวะที่ปกคลุมทางด้านหน้า ออกจากมดลูกส่วนล่าง (Lower uterine segment) ข้าพเจ้าเริ่มต้นด้วยการผ่าตัดจากด้านข้างก่อนทั้งสองด้านดังที่กล่าวมา โดยค่อยๆจี้ตัดเลาะย้อนขึ้นไปทางข้างบน (นับจากรอยต่อของแผลผ่าตัดที่เปิดครั้งแรกด้านหลังของมดลูกส่วนล่าง).. ซึ่งมีกระเพาะปัสสาวะย้อยมาจากด้านหน้า คร่อมปกคลุมมดลูกส่วนล่าง..จากนั้น ก็ค่อยๆเลาะ จี้ ตัด..Peritonium   ตรงกลางๆ (Middle part) หรือเยื่อบุลำไส้ส่วนที่ยึดกับผิวด้านหน้าของมดลูกส่วนล่าง.. ตรงริมขอบที่ติดกันพอดี..โดยค่อยๆกรีดจี้เจาะเนื้อเยื่อ พร้อมกับให้แพทย์ที่กระดกมดลูก ช่วยดันเครื่องมือจากด้านล่าง ให้มดลูกลอยขึ้นสูง.. ซึ่งจะมีผลช่วยให้การกรีดเจาะ ..ไม่ทะลุเข้าไปในกระเพาปัสสาวะ..

เมื่อข้าพเจ้าเลาะเอา Peritonium ส่วนที่ปกคลุมด้านหน้าของมดลูกส่วนล่างได้แล้ว ก็ใช้จี้ไฟฟ้า จี้ตัดเนื้อบริเวณส่วนคอมดลูกจนทะลุเข้าไปในช่องคลอด (Anterior fornix) ..การจี้ตัดเนื้อมดลูกส่วนล่างครั้งนี้ แตกต่างจากครั้งก่อนๆ เพราะข้าพเจ้าจี้ตัดในช่วงท้ายๆของการผ่าตัด (last operation)  ภายหลังจากเลาะทางด้านข้างของมดลูก จนเปลือยเปล่า..และเห็นแนวทอดตัวของกระเพาะปัสสาวะที่ปกคลุมมดลูก จากนั้น จึงทำการกรีดจี้ไฟฟ้าไปโดยรอบพร้อมกับดันตัวกระดกมดลูก..

จริงๆแล้ว!! ก่อนหน้านั้น ตอนที่จี้ตัดเนื้อเยื่อบริเวณด้านข้าง..อันประกอบด้วยรังไข่และท่อนำไข่ ซึ่งเรียกรวมๆว่า ‘Adnexa’  ข้าพเจ้าได้เลาะตัดเอาท่อนำไข่ออกไปด้วยทั้งสองข้าง ดังนั้น พอเลาะตัดจนทะลุเข้าช่องคลอดโดยรอบ..เรียบร้อยแล้ว.. เนื้องอกมดลูกก็หลุดลอยเป็นอิสระทันที..

การผ่าเลาะตัดเอาชิ้นเนื้องอกมดลูกออกจากช่องคลอดของคุณสุกัญญานั้น (Removal of  uterine myoma by cutting to small pieces from vagina ).. ไม่ยากเลย วิธีการ คือ เราเอาเครื่องมือที่สอดจากช่องคลอดออก (ตัวกระดกมดลูกพร้อมท่องวงแหวนสีน้ำเงิน) จากนั้น ก็ตัดเนื้องงอกมดลูกเป็นชิ้นเล็กๆ โดยเริ่มจาก ปากมดลูก และตัดดึงเนื้องอกลงมาเรื่อยๆ ..เนื่องจากช่องคลอดของคนไข้รายนี้ กว้างพอสมควร ..เนื้องอกมดลูกทั้งหมด จึงหลุดออกมา โดยไม่ต้องเลาะตัดเนื้องอกทิ้งที่ละชิ้นๆ ..เหมือนที่เคยกระทำมาในคนไข้รายอื่น

วิธีการเย็บปิดช่องคลอดจากการผ่าตัดผ่านกล้องนั้น กระทำได้ 2 วิธี วิธีการแรก คือ เย็บจากด้านบน คือ เย็บปิดช่องคลอดจากในช่องท้อง โดยใช้ตัวจับ (Needle Holder) ที่ยาว เหมือนตะเกียบ และมีตัวประคองเป็นแขนยาวๆ (Grasping forceps) เช่นกัน โดยมีแพทย์ผู้ช่วย ร่วมถือตัวประคอง (Grasping forceps) ช่วยด้วยเช่นกัน.. วิธีการเย็บแบบนี้ ต้องใช้ความสามารถที่ฝึกฝนมานานพอสมควร ส่วนอีกวิธีหนึ่ง คือ การเย็บแผลส่วนปลายช่องคลอด (Vaginal Apex) ผ่านทางช่องคลอด (Transvaginal suturing)  วิธีการนี้ ง่ายกว่า และเหมาะที่จะใช้ในกรณีที่..แผลภายในตรงยอดช่องคลอด มีพังผืด หรือเย็บยากจากด้านบน สรุปง่ายๆ คือ ถ้าไม่แน่ใจว่าจะเย็บจากข้างบนได้หรือไม่ได้ หรือกลัวว่าจะมีปัญหา..ให้เย็บผ่านทางช่องคลอด (Transvaginal suturing)   เท่านั้น กรณีของคุณสุกัญญาก็เช่นกัน..ข้าพเจ้าได้เย็บผ่านทางช่องคลอด..ซึ่งขอให้พยาบาลช่วยเหลือในการเย็บ (Assisted) ก็เพียงพอ..ส่วนแพทย์ผู้ช่วย ข้าพเจ้าบอกให้คุณหมอไปตรวจคนไข้ที่รออยู่ ได้เลย..คนไข้รายนี้ ได้รับการผ่าตัดอย่างเรียบร้อย โดยไม่มีปัญหาใดๆ เธอพักอยู่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 วัน ก็ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้..

คนขับรถแทกซี่ทุกคน ล้วนถือว่า เป็นคนที่ได้เรียนรู้ตลอดเวลาจากมหาวิทยาลัยแห่งชีวิต เพราะพวกเขาได้ยินและสนทนาเรื่องราวกับผู้โดยสารทั้งวันทั้งคืน จึงมีข้อมูลข่าวสารมากมาย ถ้ารู้จักวิเคราะห์ ก็จะคาดการณ์ล่วงหน้าถึงเหตุการณ์บ้านเมืองได้อย่างแม่นยำ..คนขับรายนี้พูดต่อว่า ‘ในระหว่างนี้ สายตาของคนต่างประเทศถือว่า ประเทศไทยไม่ใช่ประชาธิปไตย หลายประเทศจึงห้ามติดต่อซื้อขายหุ้นกับไทย ทำให้เงินลงทุนในตลาดหลักทรัพย์หายไป ส่งผลให้สภาพคล่องภายในประเทศลดลง..คนไทยจนลงเพราะไม่มีเงินสดหมุนเวียนอยู่ในมือ และคนจนกำลังจะตายในยุคกระแสทุนนิยม โดยเฉพาะคนที่ปรับตัวไม่ทัน’..

ขณะที่กำลังสนทนาสนุก..รถแทกซี่ก็หยุดจอด ที่หน้าบ้านของข้าพเจ้า….ข้าพเจ้าลงจากรถแทกซี่คันนั้น พร้องกับจ่ายเงิน บวกค่าทิปอีกเล็กน้อย ..ข้าพเจ้าบอกไม่ถูกว่า คนขับรถแทกซี่คันนี้ เป็นนักปรัชญาหรือเปล่า..แต่ที่แน่ๆ..เขายังคงเป็นคนหาเช้ากินค่ำอยู่เหมือนเดิม…เพราะไม่กล้าที่จะปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต..

&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&

พ.ต.อ. นพ. เสรี  ธีรพงษ์  ผู้เขียน

 

 

 

   

กรุณาอย่าทำบาป โดยไม่ตั้งใจ

หลายวันก่อน ข้าพเจ้าได้ซื้อปลาหมอตัวเล็กประมาณ ร้อยกว่าตัวจากตลาดสวนหลวง ร. 9 และเอาไปปล่อยที่วันลานบุญ แม่ค้า ได้จัดแบ่งปลาตัวเล็กๆเหล่านี้ออกเป็น 2 ถุงใหญ่ แต่ได้เอาเจ้า 2 ถุงใหญ่ใส่ในถุงหิ้วที่ใหญ่กว่าเพียง 1 ใบ ข้าพเจ้าได้นำถุงปลาใบนี้โดยสารรถแทกซี่กลับบ้าน เพื่อชักชวนภรรยาและลูกชายไปปล่อยด้วยกัน พอขับรถไปถึงวัดลานบุญ ข้าพเจ้าก็ให้ลูกและภรรยารีบลงจากรถเพื่อไปปล่อยปลาก่อน เพราะได้เสียเวลา(รวมจากสวนหลวง ร.9 จนถึงวัดลานบุญ)ประมาณ 40 นาที ทั้งสองคนไปยืนปล่อยที่หน้าศาลาน้ำ ส่วนข้าพเจ้าก็รีบไปจอดรถ และจะมาอนุโมทนาบุญภายหลัง ผลปรากฏว่า ถุงปลาน้อยของภรรยา ก็ปล่อยปลาเป็นไปได้ด้วยดี แต่ถุงอีกถุงหนึ่งที่ลูกชายถือ ปลาที่อยู่ข้างในกลับตายทั้งหมด จำนวน ประมาณ 50 กว่าตัว
ข้าพเจ้าและลูกชายรู้สึกเศร้าใจมาก เพราะไม่เพียงแต่ ไม่ได้บุญ ยังทำบาปแบบเต็มๆ โดยไม่ตั้งใจ พอสอบสาวราวเรื่อง ปรากฏว่า ที่ปลาตาย ก็เพราะปากถุงที่ปลาตายนั้น คลายออก เนื่องจากน้องคนขายผูกปากถุงไม่แน่น เมื่อนำ 2 ถุงมาอยู่ในถุงใหญ่ใบเดียวกัน ถุงใบที่ปากถุงแน่น ก็เบียดและทับอีกถุงจนแบน ปลาทั้งหมดในถุงแบนขาดอากาศหายใจ สิ้นชีวิตทันที แม้เราจะนำปลาใส่ถุงเดินทางมาเพียงแค่ ไม่ถึง 1 ชั่วโมง..
จริงๆแล้ว ระหว่างเดินทางไปปล่อยปลา ข้าพเจ้าได้เล่าการทำบาปกรณีปล่อยปลาของเพื่อนคนหนึ่งให้ลูกชายฟังว่า เพื่อนผมคนหนึ่งหวังดี อยากทำบุญ จึงซื้อปลามามากมายใส่ถุง นำกลับบ้าน เพื่อจะไปปล่อยร่วมกับภรรยา ปรากฏว่า งานยุ่งมาก ตกเย็น เมื่อจะนำไปปล่อย ปรากฏว่า ปลาตายทั้งหมด ข้าพเจ้าบอกกับลูกว่า เวลาปล่อยสัตว์นั้น จงอย่าได้ประมาทเช่นนี้ พอไปถึงวัดกลับเป็นว่า ข้าพเจ้าเองเป็นผู้ทำบาปในทำนองเดียวกัน คนเรานั้น อย่าได้ไปว่าร้ายคนอื่นเลย ทำตัวเองให้ดีที่สุดเป็นพอ
วันนี้ ข้าพเจ้ากลับไปที่ร้านเดิม ที่ร้านแผงลอยแห่งนี้ มีคนซื้อปลาไปปล่อยน้อยมาก เหลือปลาใหญ้น้อย 2 ร้อยกว่าตัว เขาขอให้ข้าพเจ้าเหมาไปปล่อย ข้าพเจ้าก็ยินดี และต่อราคาเท่าที่มีเงินสดในกระเป๋า เหลือเพียงเงินค่าแทกซี่กลับบ้าน ก็พอ
ข้าพเจ้ากลัวจะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำ้ำรอย จึงบอกให้แม่ค้าระวังเรื่องนี้ แม่ค้าพูดว่า ‘สำหรับหนู จะไม่เกิดเรื่องเช่นนั้นอย่างแน่นอน หนูใส่อากาศลงไปในถุงและผูกถุงแน่นหนา ปลาสามารถอยู่ได้ถึง 2 ชั่วโมง’ คำพูดนี้ แสดงว่า แม่ค้าเหล่านี้ ทราบดีถึงเรื่องว่า ปลาจะอยู่ได้นานเท่าไหร่ในถุงและควรจะผูกปากถุงอย่างไร?? เพราะวันที่ข้าพเจ้ากลับไปต่อว่านั้น แม่ค้าก็ต่อว่า น้องสาวพวกเขาอีกทีว่า ‘เป็นคนทำบาปทั้งหมด คนซื้อไ่ม่บาปหรอก เพราะไม่รู้’
วันนี้ ข้าพเจ้าและลูกรีบนำปลาเหล่านี้ไปปล่อยลงในแม่น้ำ ที่มีนำ้ไหล ปลาใหญ่น้อยเหล่่านี้ดำผุดดำว่ายอย่างอิสระ อยู่ใกล้ๆนั้น สักพัก เหมือนกับจะขอบคุณเรา แล้วก็แหวกว่ายหายไปกับสายน้ำ
ที่ข้าพเจ้าตั้งใจจะเล่า ก็เพื่อให้ทุกคนที่ปล่อยปลาบ่อยๆ ‘โปรดอย่านำปลาที่ใส่ถุงแล้ว มาใส่ในถุงหิ้วใหญ่ใบเดียว ช่วยกรุณา แยกถุงใบหนึ่ง กับถุงถือ 1 ใบ ด้วย จะได้ไม่เกิดการทับกัน’ ขอให้ทุกท่านโชคดี มีบุญจากการทำทาน และไม่ทำบาป โดยไม่ตั้งใจ

กินยาละลายลิ่มเลือดก่อนผ่าตัด

วันนี้ ข้าพเจ้าผ่าตัดให้กับคนไข้รายหนึ่ง ชื่อ คุณเล็ก ซึ่งเป็นกระบังลม (ช่องคลอดหย่อน)หย่อนจนมดลูกหลุดออกมาจากช่องคลอด คนไข้อายุ 66 ปี ความจริง!! คนไข้รายนี้ กำลังจะเข้ารับการผ่าตัดเมื่อ วันศุกร์ที่ผ่านมา เผอิญ!! วันพฤหัส พยาบาลที่หอผู้ป่วย ซักถามคนไข้ ได้ความว่า เธอรับประทานยาละลายลิ่มเลือดตัวหนึ่ง ชื่อ Cardipin เพราะเป็นความดันโลหิตสูง ยาตัวนี้มี Aspirin เป็นส่วนประกอบ โชคดีที่มีการซักประวัติก่อน มิฉะนั้น หากผ่าตัดไปในวันศุกร์ คนไข้มีหวังได้รับอันตรายจากภาวะเลือดไหลออกไม่หยุด ข้าพเจ้าได้โทรศัพท์ถามอายุรแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องหัวใจและหลอดเลือด คุณหมอบอกว่า จำเป็นต้องหยุดยาก่อน 5 วัน จึงจะผ่าตัดได้ โดยไม่มีเลือดไหลผิดปกติหลังผ่าตัด วันนี้ (วันอังคาร) ข้าพเจ้าจึงผ่าตัดเอามดลูกของคุณเล็กออกทางช่องคลอดและตกแต่งช่องคลอดไปด้วย (Vaginal Hysterectomy) ใช้เวลาผ่าตัดไม่นานนักประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ โดยใช้อุปกรณ์พิเศษ สังเกตว่า เลือดหยุดได้ดี ข้อผิดพลาดเช่นนี้เกิดขึ้นง่ายมาก เพราะคนไข้รักษาโรคความดันโลหิตสูง แต่กลับรับประทานยาละลายลิ่มเลือด
สัปดาห์ก่อน ข้าพเจ้าก็ผ่าตัดเอามดลูกและรังไข่ออกทางหน้าท้องให้กับคนไข้ ชื่อ คุณประยงค์ อายุ 44 ปี ซึ่งเคยผ่าตัดทำbypass เส้นเลือดที่หัวใจ เมื่อปี พ.ศ. 2551 คนไข้มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงร่วมด้วย เธอก็กินยาละลายลิ่มเลือดเช่นกัน แต่คนละตัว กับคุณเล็ก คนไข้รายนี้ ก็หยุดยาก่อน 1 สัปดาห์ ก่อนผ่าตัด ข้าพเจ้าได้ผ่าตัดอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็เสร็จ โดยใช้อุปกรณ์พิเศษเช่นกัน เพราะกลัวภาวะเลือดไหลผิดปกติหลังผ่าตัด…
หลังผ่าตัดเพียงวันเดียว พอคนไข้รับประทานได้ อายุรแพทย์ ก็ให้คุณประยงค์รับประทานยาเดิมทั้งหมด ข้าพเจ้ากลัวมากว่า คนไข้จะมีเลือดออกภายในช่องท้องอีก แต่ก็ไม่พบว่า เธอเป็นอะไร แต่ก็แปลก!! นี่ผ่านมา 7-8 วันแล้ว คนไข้ยังไม่ได้กลับบ้านเลย เพราะมีภาวะแทรกซ้อน คือ เมื่อวาน เธอเกิดมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำจนช็อค (Hypoglycemia)พวกเราก็ปรึกษาอายุรแพทย์มารักษา จนเธอปลอดภัย

โชคดี ที่คนทั้งสองมีประกันสังคม ทั้งสองคนจึงแทบไม่เสียเงินเลย แต่..นี่คือตัวอย่างหนึ่งของคนไข้ที่กินยาละลายลิ่มเลือดก่อนผ่าตัด ซึ่งจำเป็นที่เราจะต้องปรึกษาอายุรแพทย์ เพื่อหยุดยาก่อนผ่าตัด ประมาณ 5-7วัน มิฉะนั้น เราอาจสูญเสียคนไข้เหล่านี้ก็ได้ เนื่องจากเลือดไหลออกไม่หยุดหลังผ่าตัด

สวัสดีปีใหม่ พ.ศ. 2553

สวัสดีปีใหม่ แด่ เพื่อนผู้อ่านทุกท่าน ในปี พ.ศ. 2553 นี้ ขอให้ทุกๆท่น ที่มีโอกาสผ่านเข้ามาใน Website นี้ มีความสุขสมหวังดังตั้งใจ มีสุขภาพที่ดี มีความสำเร็จในหน้าที่การงาน และความรัก
เนื่องด้วยปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าอาจตอบข้อข้องใจช้าไปบ้าง ลงเรื่องราวน้อยไปหน่อย และไม่ค่อยได้เขียนDiary ข้าพเจ้าต้องขอประทานโทษ อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ข้าพเจ้าจะพยายามเขียนDiary ทุกวัน เพื่อให้ข้อมูล Update หรือการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น อาทิ ข้าพเจ้าได้เรียนเชิญ อาจารย์แพทย์อีกหลายท่าน พยาบาลผู้มากประสบการณ์ หรือผู้รู้ต่างๆมาช่วยตอบคำถาม เขียนเรื่องราวน่ารู้ โดยจะออกแบบ เพิ่มเติมในห้องต่างๆ (ในช่วงแรกๆ ท่านอาจารย์เหล่านี้ อาจเพียงร่วมตอบคำถามไปก่อน คงต้องรอให้Programmerเขียนprogram ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง)
เรื่องราวทางการแพทย์นั้นมีมากมาย และเกิดปัญหาขึ้นทุกวัน ข้าพเจ้าจะพยายามเขียน และตอบปัญหา ทั้งภาพรวม/ส่วนตัว อย่างเต็มควมสามารถ
สุดท้ายนี้ ขอให้เ่พื่อนผู้อ่านมีความสุข และแก้ปัญหาต่างๆได้อย่างดี รวมทั้งมีสุขภาพที่แข็งแรง
หมอเสรี

สวัสดีปีใหม่ อีกครั้ง

ต้องขอประทานโทษท่านผู้อ่านทุกท่านทีช่วงนี้ เข้าอินเตอเนต นอยไปหน่อย เนื่องด้วยงานยุ่งมาก แต่ก้มีเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับคนไข้ผ่านเข้ามาในชีวิตมากม มีทั้งที่ตื่นเต้น จนน่ากลัวและนาสนใจ อย่างเช่น เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ก็ได้พบคนไข้Endometriosis 1 ราย ทีมีChocolate cyst และมีเยื่อบุมดลูกเต็มไปหมดที่บริเวณต่ำสุดของอุ้งเชิงกราน(Culdesac) แม้้จะจี้ด้วย Argon ก็คงยากที่จะหาย ผู้ป่วยคงต้องรีบมีบุตร เพ่ออาสัยฮอร์โมนจากรกไปทำลายเยื่อบุมดลูกส่วนที่เหลือ อีกรายเป้นเนื้องอกมดลูกก้อนใหญมาก พอสมควร การผ่าตัดผ่านกล้องเต็มไปด้วยความยากลำบาก เนืื่องจากการประสนานกับผู้ช่วย ยังไม่ดีพอ ต้องผ่าตัดทางด้านบนและทางช่องคลอดสลับกัน กินเวลานานถึง 4-5 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังมีปัญหาอื่นอีก ข้าพเจ้าคงมีโอกาสเล่าให้ฟังในภายภาคหน้า ขอให้ทุกท่านโชคดี มีความสุข
หมอเสรี

เดินทางไปต่างประเทศ

เรียนท่านผู้อ่านที่เคารพรัก
วันที่ 7 มีนาคม 2553 ข้าพเจ้าจะออกเดินทางไประเทศอินเดีย โดยมีกำหนดในเบื้องต้น 4 วัน คือจะกลับในวันที่ 10 มีนาคม ดังน้น ระหว่างนี้ คงไม่สามารถตอบปัญหาไ้ด้ แต่ากท่ระเทศอินเดีย ข้าาพเจ้าสามารถเข้าอินเตอร์เนตได้ ก็จะตอบปัญหาต่างๆตามปกติ อนึ่ง ช่วงนี มีพวก spam เข้ามารบกวนอยู่มากมายจนไม่ทราบว่า มีใครเขียนคถามเข้ามาบ้าง เอาไว้ผมกลับจากอินเดีย ก็จะให้Programmeer เขียนโปรแกรมลบและทำลายบรรดาตัวspamที่เข้ามารบกวน สดท้ายนี้ ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุขมากๆ ขอให้โชคดี
หมอเสรี

วิธีขจัดความเครียดอันเป็นสาเหตุของโรคร้าย


ความเครียด ถ้าสะสมมากๆเข้าโดยไม่ได้รับการบำบัดหรือผ่อนคลายอย่างจริงจัง

ก็อาจจะกลายเป็นต้นเหตุของโรคร้ายที่คาดไม่ถึงได้ ดังนั้น

มาหาวิธีขจัดความเครียดกันเถอะ
อ่านเพิ่มเติม วิธีขจัดความเครียดอันเป็นสาเหตุของโรคร้าย

22/05/2010

สวัสดี ผู้อ่านที่รักทุกท่าน
ต้องขอโทษที่ไม่ค่อยได้อัพเดท ข้อมูล เนื่องจากมีเหตุการณ์ยุ่งๆของบ้านเมืองและส่วนตัวมากมาย ทำให้ยุ่งยากใจและไม่มีเวลามาเปิดที่คอมฯส่วนตัว อย่างไรก็ตาม บัดนี้ เหตุการณ์บ้านเมืองได้สงบลงแล้ว เหมือน เมฆ หมอกและพายุร้ายที่พัดผ่าน แม้จะมีข้าวของเสียหายไปส่วนหนึ่ง แต่ความสงบ ร่มเย็น ก็ได้กลับคืนมา ทั้งนี้ คงเป็นเพราะบ้านเมืองเรามีพระสยามเทวาธราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพระเจ้าอยู่หัว ต่อไป คนไทยคงกลับมารักกันเหมือนเช่นในอดีต
อนึ่ง ข้าพเจ้า ไม่ใช่มืออาชีพในด้าน Website หรือมีความสามารถด้านสื่อสารมวลชน หากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดขาดตกบกพร่องไปบ้าง ข้าพเจ้าต้องขอประทานอภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ท่านใด ที่Post ปัญหา แล้วยังไม่ได้รับคำตอบ โปรดเข้าไปที่ contact และmail ถึงข้าพเจ้าโดยตรง รับรองได้รับคำตอบอย่างแน่นอน ขอให้ทุกคนมีความสุข

Change

ก่อนอื่น ผมต้องขอประทานผู้อ่านทุกๆท่าน ที่ไม่ได้ Update ข้อมูล เพราะผมป่วยเป็น Recurrent prostitis หมายถึงต่อมลูกหมากอักเสบซ้ำ กล่าวคือ หลังจากทานยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Quinolone เป็นเวลานานถึง 3 เดือน ก็ยังไม่หาย แถมกลับเป็นซ้ำอีก ผมตัดสินใจใช้ยากลุ่มนี้ที่สูงขึ้น บวกกับยา Genta หยดเข้าเส้นเลือด 5 วัน ปรากฏว่า อาการยังคงแย่อยู่ เผอิญ! ผมไดเ้ไปแจกซองผ้าป่าที่ตัวเองเป็นประธาน ได้พบกับหมอท่านหนึุึ่ง ซึ่ง แม้ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ เรื่องระบบทางเดินปัสสาวะ แต่มีความเชี่ยวชาญเรื่องยา เพราะจบเภสัช มาก่อนสอบเข้าแพทย์ คือ บอกให้ผมเปลี่ยนเป็นกลุ่ม Cephalosporin เพราะยาเข้า soft tissue ได้ง่าย และต่อมลูกหมาก ก็เป็น soft tissue ส่วนยากลุ่ม Quinolone ยาจะถูกขับทางไต จึงรักษาทางเดินปัสาวะอักเสบได้ดี ผมจึงรีบเปลี่ยนยามาเป็น Cefarosporin ฉีดเข้าเส้น และยากินในกลุ่มนี้ รูปแบบเม็ด (Omnicef) ทำให้อาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่เอง การเลือกแพทย์ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น แม้คำแนะนำครั้งแรก จะดีและเป็นของSpecialist แต่มันไม่ถูกกับตัวเรา เราก็ต้องเปลี่ยน อย่ารีรอ การเปลี่ยนหมอ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ขออย่างเดียว อย่าเปลี่ยนไปพบกับ ‘หมอปลอม’ ซึ่งมีอยู่มากมาย ที่ไม่มีความรู้ครอบคลุมในโรคของคุณ
ไม่ต้องเกรงใจหรอก แม้แต่คนไข้ของผมเอง ก็ตาม หากมีปัญหา เกิดขึ้น เช่นไปปตรวจพบเซลล์มะเร็ง หรือสงสัยมะเร็งของอวัยวะสืบพันธ์ ก็เปลี่ยนไปหาหมอผู้เชี่ยวชาญเรื่องมะเร้งอวัยวะสืบพีัันธ์ได้ ไม่ต้องเกรงใจ และไม่ต้องมาบอกก็ได้ จริงๆแล้ว คนไข้ของผม หากเกินความสามารถ เช่นโรคเปลี่ยนแปลง ไปเป็นมะเร็งดังว่า หรือโรคอื่นที่ไม่เชี่ยวชาญ ผมก็จะส่งให้หมอท่านอื่นไป ไม่คิดจะเก็บคนไข้ไว้
ไม่นานมานี้ มีคนไข้ผมรายหนึ่ง อายุ ราว 37 – 38 ปี ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม ได้ไปปรึกษาแพทย์ คุณหมอแนะนำให้ผ่าตัดและตกแต่งเต้านมเลย เพราะยังเป็นระยะต้น แต่คนไข้กลัวเจ็บ จึงไปปรึกษากับคุณหมอฝังเข็ม หมอก็บอกว่า รักษาได้ผลมาหลายราย รวมทั้งคนที่เป็นระยะท้ายๆด้วย คนไข้ผมเชื่อ จึงเสียเวลาไป 2 ดือน ต่อมา สามีคนไข้โทรศัพท์มารายงานว่า มีอาการบวมแถวใบหน้า นั่นแสดงว่า ระยะโรคเปลี่ยนแล้ว การรักษาตอนนี้ คงต้องฉายแสง แล้ว ถึงผ่าตัดแบบตัดหมด ไม่สามารถตกแต่งได้ นี่เป็นตัวอย่างว่า อย่าหันไปพึ่งคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญไม่ถูกกับโรคของเรา มิฉะนั้น อาจเกิดความผิดพลาดได้ สำหรับผม ผิดพลาด แต่ก็ไม่ตายและแก้ไขได้ แต่อีกกรณี คงต้องแล้วแต่โชควาสนา
ขอให้โชคดี