หมอดูเทวดา

คนทุกคนปากก็มักปฏิเสธไม่เชื่อในสิ่งงมงาย หรือสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ แต่ใจจริง ๆ แล้วมี
ความเชื่ออยู่ลึก ๆ โดยเฉพาะคำทำนายโชคชะตา บางคนถึงกับเสียเวลาทั้งชีวิตไปวนเวียนอยู่ใน
เส้นทางวกวนที่คำทำนายขีดเส้นแผนที่ให้เดิน บางคนโชคดีที่คำทำนายออกมาดีว่า อนาคตจะ
รุ่งโรจน์ จิตใจจึงเชื่อมั่นเต็มที่ พบอุปสรรคครั้งใด ก็คิดว่าเป็นบันไดให้ก้าวขึ้นไป ยิ่งพบอุปสรรค
ยิ่งไม่ท้อไม่ยอมแพ้ ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จตามคำทำนาย บางทีกลับมารู้ทีหลังว่า คำทำนาย
นั้นผิดคน ก็เคยมีบ่อย ๆ
ข้าพเจ้าเป็นนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทุกสิ่งต้องผ่านการพิสูจน์จึงเชื่อได้ แต่จิตใจก็
เหมือนท่านทั้งหลาย ส่วนลึก ๆ ยังมีความเชื่อโชคลางอยู่ จะไม่ให้เชื่อได้อย่างไร คนที่อยู่
เคียงข้างข้าพเจ้า พูดกรอกหูอยู่ทุกวัน เธอบังเอิญได้มีโอกาสเป็นลูกศิษย์องค์เจ้าลัทธิลามะดำ
(พุทธศาสนานิกายหนึ่ง) ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้ที่บรรลุทางธรรม ล่วงรู้สิ่งที่สวรรค์กำหนด ผู้คนที่ผู้รู้จัก
ท่านเลื่อมใสศรัทธาอยู่ทั่วโลก ความรู้ที่ท่านสอนให้ ห้ามนำไปใช้ทำมาหากิน บอกใครก็ไม่ได้
เป็นเพียงความรู้ประดับกาย ไว้ป้องกันเหตุร้ายให้ครอบครัว และผู้มีภัยยามพบเห็นโดยบังเอิญ
เท่านั้น นอกจากนี้ยังศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากตำราทำนายโชคชะตาต่าง ๆ เองด้วย มี
ความเชื่อมั่นว่าชีวิตความเป็นไปในโลกนี้ ส่วนหนึ่งพรหมได้ลิขิตไว้แล้ว ยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ อีก
ส่วนหนึ่ง เราต้องลิขิตชีวิตเอง
โลกเรานี้ ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีด้านตรงข้ามเป็นของคู่กันเสมอ มีเกิด-มีตาย,มีได้-มี
เสีย ในทางโชคชะตาวาสนา เมื่อมีโชคดีได้รับอะไรมา หากว่ามีการให้หรือทำบุญบริจาคออกไป
บ้าง จะทำให้วาสนาสมดุลย์ อยู่อย่างปกติสุขได้ หากว่า ไม่มีการให้หรือทำบุญช่วยเหลือสังคม
เพื่อนมนุษย์เลย อาจจะต้องสูญเสียบางสิ่งบางอย่างเป็นการทดแทนหรือแลกเปลี่ยนกันไป
เพราะเหตุว่า เราได้ทำบุญไว้แต่ชาติปางก่อน จึงสะท้อนผลบุญให้เรามีทรัพย์สิน
ความเป็นอยู่ที่ดีในชาตินี้
ตอนที่ภรรยาข้าพเจ้าเดินทางเข้ามาประเทศไทยใหม่ ๆ ได้ไปหาญาติคนหนึ่ง ซึ่ง
เปิดร้านอาหารชื่อ \”กิเลน\” เผอิญสังเกตเห็นชายคนหนึ่งเพื่อนเจ้าของร้านใส่แหวนหยกสีเขียว สี
มืด ๆ มองแล้วธรรมดา แต่มีขนาดที่ใหญ่มากเป็นจุดเด่นสะดุดตา เธอจึงจำชายผู้นี้ได้อย่างแม่นยำ

3 ปี ต่อมา เธอได้มาพบชายผู้นี้อีกครั้งที่ร้านเดียวกันนี้ และแลเห็นหยกส่องแสงเป็น
ประกายวาววับสวยงามมาก คล้ายกับจะบอกความนัยสักอย่างหนึ่ง เมื่อถามดู เขาตอบว่า \”เป็น
แหวนวงเดิมที่สวมใส่ประจำนั่นแหละ\” ธรรมดาแล้ว หยกส่องแสง แสดงว่า วาสนาแสดงบารมี
แผ่ออกมาให้ปรากฎ เจ้าของร้านบอกว่า \”เขาขายที่ดินได้กำไร 100 กว่าล้านบาท\” 2 เดือน
ถัดมาได้ข่าวว่า เขาตายเสียแล้ว เจ้าของร้านเล่าว่า \”ชายคนดังกล่าวกลับไปเที่ยวไต้หวัน
วันหนึ่งได้ไปตรวจสุขภาพตามปกติ แพทย์ตรวจพบว่า เป็นมะเร็งตับ ภายหลังจากรับรู้ เขาได้
พยายามทำบุญบริจาคเงินจำนวนมาก แต่สายไปเสียแล้ว เขาเสียชีวิตเพียงแค่เดือนเดียว
ภายหลังจากที่ร่ำรวยจากลาภที่ลอยโถมกระหน่ำเข้ามาหาโดยไม่รู้ตัว\” อาจเป็นไปได้ว่าเงินที่
ได้มานั้นมากมายเหลือเกิน วาสนาของเขารองรับไม่ไหว จึงต้องเอาชีวิตไปแลกได้เงินมา แต่
เอาชีวิตไปแลก ช่างไม่คุ้มกันเลยจริง ๆ ดังนั้น จึงมีคำพูดว่า \”อย่าลืมทำบุญบริจาคช่วยเหลือ
คนอื่นบ้าง เพราะผู้ให้ย่อมปิติ จิตว่างบางเบา ไร้แรงกดดัน ผลบุญที่ทำจะหนุนตามสนองให้ประสบ
แต่สิ่งดี ๆ\”
วาสนาคนเราอาจเปลี่ยนแปลงได้ ถ้ามีคนชี้ทางที่ควรเดินให้ ภรรยาข้าพเจ้าเล่าให้
ฟังอีกเรื่องหนึ่งว่า
คนที่แสดงหนังเป็น \”เปาบุ้นจิ้น\” นั้น แต่เดิมเป็นนักแสดงตัวประกอบประเภทดาวร้าย
ในภาพยนตร์ต่าง ๆ มานานนับสิบปี หน้าตาใหญ่แบน ผิวค่อนข้างคล้ำ รูปร่างผอมสูงโปร่ง มีฐานะ
จัดว่า ค่อนข้างยากจน แม้ไม่ถึงกับอดมื้อกินมื้อ แต่ไม่สุขสบายเหมือนดารานักแสดงคนอื่น ๆ เนื่อง
ด้วยรายได้น้อย แต่ค่าครองชีพและค่าเช่าบ้านในประเทศไต้หวันสูงลิบลิ่ว
เขามักจะนั่งเหม่อลอยทอดอาลัยตายอยากกับชีวิต จิตใจเหมือนกำลังรอคอยความหวัง
อะไรสักอย่างหนึ่ง \”ถ้ามีภาพยนตร์เรื่องไหน ให้บทการแสดงอะไรก็ได้สักบท คงจะดีไม่ใช่น้อย
ครอบครัวจะได้ท้องอิ่ม และมีที่อยู่ต่อไปได้อีกสักระยะหนึ่ง สักวันโอกาสคงเป็นของเรา\” เขามัก
คิดเช่นนี้
ชีวิตครอบครัวจัดว่า อบอุ่นทีเดียว แต่งงานมานานถึง 16 ปีแล้ว ยังไม่มีลูก แต่
ภริยายังคงซื่อสัตย์และรักภักดีไม่เสื่อมคลาย
ถ้าพูดถึง ความสามารถด้านการแสดง คงไม่เป็นรองใคร แต่หน้าตาใหญ่ ๆ ไม่หล่อ
ไม่ตลก หน้าตายเสมอ ห้อยโหน หกคะเมนตีลังกาไม่เป็น ใครจะมาจ้างให้รับบทเด่น ๆ ยาว ๆ
บทแสดงที่ได้รับมักเป็นบทสั้น ๆ เป็นผู้ร้าย ค่าตัวราคาถูก ประกอบฉากสองฉากก็ถูกฆ่าตาย หรือ
สูญหายไปโดยไม่มีใครสนใจ เหตุการณ์เป็นอยู่เช่นนี้มานาน จิตใจจึงรู้สึกท้อแท้และหดหู่กับชีวิตใน
โลกนี้
ความที่เป็นคนไม่เชื่อในโชคชะตา ยึดถือความคิดที่ว่า \”ถ้าอดทน ประหยัด ขยันทำมา
หากิน ต้องไม่อดตาย และมีทางก้าวหน้า\” ทำให้เขารับงานทุกอย่างมาทำ แต่ไม่มีทีท่าว่าชีวิต
ครอบครัวจะดีขึ้น งานถนัดที่สุด คือ การแสดงภาพยนตร์ ทุกบทบาทที่รับมา จะทุ่มเทแสดงอย่าง
เต็มที่ แม้จะถึงขั้นบาดเจ็บ จึงมักได้รับคำชมจากผู้ร่วมงานบ่อย ๆ เขายอมรับว่า หน้าตาไม่หล่อ
รูปร่างไม่งดงาม จะไปแข่งขันกับหนุ่ม ๆ ที่หน้าตาดี ๆ ย่อมเป็นไปไม่ได้ จนบางครั้งรู้สึกว่า
ใจตาย คงเอาดีไม่ได้ในด้านการแสดงภาพยนต์แล้ว
วันหนึ่ง ภรรยาพาเขาไปหาหมอดู แม้ไม่เชื่อถือ บางที..อาจเป็นที่พึ่งทางใจยามนี้ได้
หมอดู พิจารณาวันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟาก ร่วมกับลักษณะโหงวเฮ้งบนใบหน้า จากนั้นจึงพูดว่า
\”ภายใน 2 เดือนข้างหน้านี้ ชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น จะมีคนมาจ้างไปแสดงหนัง
เรื่องใหญ่เรื่องหนึ่ง ในบทบาทที่สำคัญ เป็นเรื่องราวของคนหน้าตามีสี ขอให้คุณอย่าได้ปฏิเสธ\”
เขาฟังแล้วเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง หมอดูยังกล่าวต่อไปอีกว่า \”ต่อไปห้ามแสดงเป็นตัวผู้ร้าย ถ้า
แสดงเป็นดาวร้าย วาสนาจะเสื่อม และฐานะจะยากจนลงเหมือนเดิม จงเลือกแสดงเป็นคนดี
เท่านั้น ที่สำคัญให้เลือกแสดงเป็นคนที่มีผิวเป็นสีต่าง ๆ เช่น ดำสนิท แดงเข้ม จะทำให้ฐานะดี
ขึ้นมีกินมีใช้ไปตลอดชาติ\”
เขาและภรรยาเก็บคำทำนายไว้ในใจเงียบ ๆ ไม่บอกใคร และเริ่มไหว้พระขอพร
จากองค์เจ้าแม่กวนอิมทุกวัน วันเวลาผ่านไป 2 เดือน ยังไม่มีทีท่าว่าใครจะมาติดต่อให้ไปแสดง
กลับรู้สึกว่า เงินที่เก็บสะสมไว้กำลังจะหมดลง ขณะที่คิดจะเก็บข้าวของย้ายออกจากห้องเช่า ก็มีผู้
กำกับหนังคนหนึ่งพร้อมกับนักเขียนชื่อดังเดินทางมาเยี่ยมถึงห้องพัก
ทันทีที่เห็นใบหน้าและรูปร่างสูงใหญ่ของเขา ผู้กำกับคนนั้นถึงกับตะลึงพูดว่า \”ดี..ดี\”
จากนั้น ก็คุยปรึกษากับนักเขียนนามกระเดื่องสักครู่หนึ่ง แล้วจึงเอ่ยขึ้นว่า \”เรามีข้อเสนองาน
แสดงที่น่าสนใจเรื่องหนึ่ง เรื่องนี้คิดว่าน่าจะทำให้คุณมีชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี
ขึ้น แต่คุณต้องทำน้ำหนักตัวให้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 15-20 กิโลกรัม เพื่อความเหมาะสมกับตัวแสดง
คุณจะยอมไหม?\”

\”คุณจะให้ผมแสดงเป็นตัวอะไร เขาย้อนถาม
\”เป็นผู้ทรงคุณธรรม ใบหน้าดำ เปาบุ้นจิ้น\”ผู้กำกับตอบ
การตอบตกลงครั้งนี้ ทำให้เขามีรายได้เพิ่มขึ้น 10 เท่า ต่อบทการแสดง 1 ตอน
และมีงานแสดงสม่ำเสมอ ไม่ยากจนอีกต่อไป
เขาไม่กลับไปเป็นผู้ร้ายในจอแก้วแล้ว แต่จะเลือกบทเป็นคนดีและใบหน้ามีสีตามคำ
ทำนาย เรื่องต่อไปที่จะแสดง ก็เป็นบทของ \”กวนอู…เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์\” ซึ่งมีใบหน้า
และหนวดเป็นสีแดง
เพื่อภรรยาข้าพเจ้าชาวสเปนที่เป็นฑูตอยู่ประเทศไต้หวัน เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้รับผลพวง
จากคำทำนาย ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิต กล่าวคือ ชาวสเปนคนนี้ เมื่อขณะเป็นหนุ่ม
ภายหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยฯ ในประเทศสเปนแล้ว ได้เดินทางมาประเทศไต้หวัน เพื่อ
เรียนภาษาจีนกลาง ศึกษาอยู่ 2 ปี มีความรู้ทางด้านภาษาจีนดีพอสมควร จึงเดินทางกลับประเทศ
สเปน
เฝ้าติดต่อขอสมัครทำงานตามที่ต่าง ๆ มากมาย ไม่น่าเชื่อเลยว่า บัณฑิตมหาวิทยาลัยฯ
ที่มีความรู้พิเศษด้านภาษาจีนจะหางานทำไม่ได้
มาวันหนึ่ง ขณะที่กำลังท้อแท้หมดกำลังใจ และหาที่พึ่งทางใจอยู่ เผอิญพบองค์ลามะดำ
เจ้าลัทธิซึ่งเป็นชาวไต้หวัน เกิดเลื่อมใสขึ้นมาในดวงจิตทันที จึงเข้าไปกราบไหว้และขอท่านชี้ทาง
แสงสว่างให้
องค์ลามะดำองค์นี้เป็นที่รู้จักของชาวจีนในไต้หวัน และชาวจีนโพ้นทะเลในประเทศ
ต่าง ๆ เป็นอย่างดี ท่าทางสงบนิ่ง น้ำเสียงแจ่มใส สุขุมคัมภีรภาพ หากพบเห็นคนตกทุกข์ได้ยาก
ท่านจะบอกวิธีสะเดาะเคราะห์ และแก้ไขให้เป็นทานเสมอ
เมื่อเห็นชาวต่างประเทศพูดภาษาจีนกลางได้และมาขอความช่วยเหลือ ท่านไม่ได้
ปฏิเสธและยินดีช่วยชี้ทางสว่างให้ \”ขั้นแรกขอให้กลับไปที่ประเทศไต้หวัน\” ท่านพูด \”และอยู่
ทำงานที่นั้น ในงานที่ไฝ่ฝัน ไม่นานนักจะประสพความสำเร็จรุ่งเรือง มีความสุขตลอดไป\”
ชาวสเปนท่านนี้ เชื่อในคำพูดสนิทใจ ไต้หวันคงเป็นแดนสุขาวดีและบ้านหลังสุดท้าย
สำหรับเขาแน่แล้ว
เมื่อเท้าย่างเหยียบบนแผ่นดินประเทศไต้หวัน \”จะไปหางานทำที่ไหน\” เขาคิด โดย
ทั่วไปงานจะมีมากในเมืองหลวง ดังนั้น จึงมุ่งสู่กรุงไทเป
หลังจากอ่านหนังสือพิมพ์หางานซึ่งมีมากมายให้เลือก เขาต้องกลับมาทบทวนภายใน
จิตใจของตนเองด้วย ว่าชอบงานอะไร หรือในชีวิตอยากจะเป็นอะไร ในใจที่ไฝ่ฝันอยากจะเป็น
\”ฑูต\” แต่เด็กหนุ่มอย่างเขา ไม่มีความรู้ด้านการต่างประเทศหรือมีประกาศนียบัตรด้านการฑูต
ที่ไหนจะยอมให้ทำงานในตำแหน่งสูง ๆ อย่างนั้น
เขาเข้าไปในสถานฑูตหลายครั้ง แกล้งติดต่อเรื่องหนังสือเดินทาง เมื่อสอบถาม
เจ้าหน้าที่ในสถานฑูตว่า \”ที่นี่..มีตำแหน่งงานว่างไหม?\” มักได้รับคำตอบว่า \”ไม่มี\” เนื่องด้วย
เจ้าหน้าที่เหล่านั้นพากันคิดว่า \”ผู้ที่จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยฯ ควรทำงานในตำแหน่งสูงที่
เหมาะสม\” ความจริงแล้ว มีตำแหน่งว่างอยู่เหมือนกัน คือ \”เสมียน\” ซึ่งไม่ต้องใช้ความรู้มาก
นัก
การหางานทำ แม้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายจนเกินไป งานที่ชอบไม่มีให้ทำ
งานที่มีให้ทำมักเป็นงานที่ไม่ชอบ เขาต้องเสียเวลานานถึง 2 เดือน จึงหาได้งานชั่วคราวทำ
หน้าที่แปลภาษาที่สำนักงานแห่งหนึ่ง ข้างสถานฑูตสเปน
วันหนึ่ง เผอิญพบสตรีชาวไต้หวันคนหนึ่ง ทำงานอยู่ในสถานฑูตสเปนนำหนังสือราชการ
มาแปล หลังจากที่พูดคุยกัน เกิดรู้สึกถูกอัธยาศัย เมื่อได้ทราบว่า มีตำแหน่งเสมียนในสถานฑูต
สเปนตำแหน่งหนึ่ง เขาตัดสินใจลาออกจากที่ทำงาน แล้วไปสมัครเป็นเสมียน ทำงานในหน้าที่
ต่ำต้อยแต่ภูมิใจในสถานที่ เธอผู้ที่ช่วยเหลือในเรื่องการบรรจุทำงาน ต่อมาเกิดความเห็นใจและ
ความรัก จึงได้แต่งงานเป็นครอบครัวที่มีความสุขครอบครัวหนึ่ง
แม้ว่าจะรู้จักกันไม่นาน แต่ความรักความเข้าใจมีมากกว่าเพื่อนที่คบหากันมาหลายปีอีก
การแต่งงานจัดขึ้นง่าย ๆ ไม่มีพิธีรีตองอะไร เอาความรักเป็นสักขีพยาน เอาอุปนิสัยใจคอเป็นตัว
ประสานความเข้าใจ เนื่องจากทั้งสองคนเป็นคนเรียบ ๆ ง่าย ๆ ไม่จู้จี้จุกจิกหาเรื่องหาราว มี
เหตุมีผล จึงทำให้ครอบครัวมีสุขอย่างยิ่ง ภริยาตำแหน่งสูงกว่า แต่ไม่เคยดูถูกสามีในหน้าที่
ต่ำกว่า เธอให้กำลังใจเสมอ ด้วยรู้ว่า สามีชาวต่างชาติคนนี้มีความทะเยอทะยานสูง สักวันหนึ่ง
จะต้องได้ดี

ความฝันที่เป็นจริงเกิดขึ้นได้เสมอ สำหรับคนที่ไฝ่ฝัน และเฝ้าฝันไม่ท้อถอย เพราะว่า
วันหนึ่งหลังจากอยู่ในตำแหน่งต่ำต้อยมาได้ 6 เดือน ก็มีประกาศให้ยุบสถานฑูตสเปนในไต้หวัน
เนื่องจากประเทศสเปนเปิดสัมพันธ์ทางการฑูตกับประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ และจีนยึดถือนโยบายจีนมี
หนึ่งเดียว ยุบสถานฑูตกลายสภาพเป็นเพียงกงศุล รัฐบาลเรียกฑูตและเจ้าหน้าที่ชั้นสูงชาวสเปน
กลับประเทศ เจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ต้องตกงานกันมากมาย เหลือเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น และเขา
เป็นคนหนึ่งที่ทางกงศุลยังจ้างเป็นข้าราชการอยู่ นอกจากนี้ยังเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้ากงศุลด้วย
ถึงแม้จะเป็นหัวหน้ากงศุล แต่งานทำก็มีไม่มากนัก และไม่มีอำนาจตัดสินใจใด ๆ
ทั้งสิ้น ทุกสิ่งทุกอย่างต้องฟังคำสั่งจากรัฐบาล
ต้องขอขอบคุณฟ้าดินที่ให้โอกาสแก่เขา เขามีคุณสมบัติเหมาะสม ที่จะเป็นหัวหน้ากงสุล
เพราะที่นั่นมีชาวสเปน คือ เขาคนเดียวเท่านั้น และยังเป็นคนมีมนุษย์สัมพันธ์ดี ที่สำคัญ รู้ภาษาจีน
กลาง ใช้ได้ทั้งด้านการพูดและเขียน
ถัดมาอีก 3 ปี ประเทศสเปน เปิดสัมพันธ์ทางการฑูตกับไต้หวันอีกครั้ง เขาได้รับ
การแต่งตั้งให้เป็นฑูตประจำประเทศไต้หวันโดยปริยายในทันที ต่อมายังได้เป็น ผู้จัดการธนาคาร
แห่งชาติสเปนในไต้หวันอีก ตำแหน่งหนึ่งด้วย ซึ่งสถานที่ตั้งของธนาคารก็อยู่ในอาคารเดียวกันกับ
สถานฑูตสเปนแต่คนละชั้นนั่นเอง
ทุกวันนี้ เขายังคงนับถือพุทธศาสนาลัทธิลามะดำอย่างไม่เสื่อมคลาย เหตุการณ์ต่าง ๆ
เกิดขึ้นราวกับปาฏิหารย์ แม้แต่เรื่องมีลูก
เขาแต่งงานมา 13 ปี ไม่มีลูก ได้ตระเวนรักษากับแพทย์ผู้มีชื่อเสียงและเครื่องมือทัน
สมัยที่สุดในหลาย ๆ ประเทศ เมื่อประสพความผิดหวัง เขาและภริยาได้ไปเฝ้าองค์เจ้าลัทธิ
ลามะดำ ท่านได้สอนให้ทำพิธีซึ่งเปิดเผยไม่ได้ เมื่อทำตามพิธีกรรมที่สั่งสอนมา ในระยะเวลา
ไม่นาน ก็สมหวังได้บุตรชายและบุตรสาวอย่างละคน
ก่อนหน้าที่จะไปหาองค์เจ้าลัทธิลามะดำ คุณพ่อของเขาซึ่งอายุ 80 ปีเศษ นัยน์ตาฝ้า
ฟางมองไม่ชัดเจนแล้ว ได้บ่นว่า อยากเห็นหลานเหลือเกิน อยากเห็นหลานไปโรงเรียน
หลังจากนั้นคงนอนตายตาหลับ เขาและภริยาได้ขอให้องค์ท่านช่วยเหลือในเรื่องนี้ด้วย ไม่น่าเชื่อ
เลย เมื่อขณะภริยาตั้งครรภ์ลูกคนแรก นัยน์ตาของคุณพ่อก็กลับแลเห็นเป็นปกติชัดเจนอีกครั้ง

คุณพ่อของฑูตสเปน ได้เห็นหลานจวบจนเด็กทั้งสองคนเข้าเรียนในชั้นประถมศึกษา จึงตายตาหลับ
อย่างสงบด้วยรอยยิ้มยินดี เช่นนี้แล้วจะไม่ให้เขาศรัทธาในพุทธศาสนาลัทธิลามะดำได้อย่างไร
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นคล้ายดังฝัน แต่เป็นจริงอย่างน่าอัศจรรย์
ชาวสเปนคนนี้เองที่เป็นคนแนะนำ องค์เจ้าลัทธิลามะดำให้รู้จักกับภริยาของข้าพเจ้า
ซึ่งเธอตกใจมากเมื่อ ได้รับโทรศัพท์จากองค์ท่านในวันหนึ่ง บอกว่า \”ท่านมีเวลา 2 ชั่วโมง ขอ
ให้รีบมาหาหน่อยได้ไหม? ลูกศิษย์ชาวสเปนคนหนึ่ง เป็นผู้แนะนำให้โทรมาหา เนื่องจากทราบว่า
ได้รับความทุกข์จากการถูกคนโกงและทำกิจการขาดทุนย่อยยับ จึงอยากจะหาทางช่วยบรรเทา
ความทุกข์ให้\”
จริง ๆ เรื่องการถูกคดโกงเงินครั้งใหญ่นี้ มีคำทำนายไว้นานแล้วเมื่อสมัยเรียนจบ
มหาวิทยาลัยฯ ใหม่ ๆ \”ต่อไปภายภาคหน้า จะมีอนาคตดีในต่างแดนประเทศอื่น แต่ยามเมื่ออายุ
ขึ้นต้นด้วยเลข 3 ให้ระวังตัวเป็นพิเศษ เพราะจะต้องสูญเสียเงินจำนวนมาก สูญเงินอย่างเดียว
ไม่ถึงกับเสียชีวิต\” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง ๆ ร้ายแรงจนเกือบจะสูญเงินที่สะสมมาตลอดชีวิต
โชคดีที่ซื้อบ้านไว้หนึ่งหลังที่กรุงไทเป จึงขายออกไปได้เงินมาจำนวนหนึ่งพอปะทะปะทังชีวิตที่เหลือ
อยู่ต่อไปได้
ระหว่างที่ไปกรุงไทเป เผอิญได้รู้จักกับชาวสเปนคนนี้และปรับทุกข์ให้ฟัง เพื่อนชาว
สเปนได้เล่าเรื่องราวของเขาให้ฟัง พร้อมกับรับปากว่า เมื่อพบองค์ท่านเจ้าลัทธิลามะดำจะเรียน
ปรึกษาให้ หากท่านมาเมืองไทยจะแจ้งให้ทราบ
ครั้นมาถึงเมืองไทย กลับเป็นว่า ท่านเจ้าลัทธิลามะดำเป็นฝ่ายติดต่อเข้ามาหา โดย
ไม่ได้ถือตัวสักนิดเดียว
เมื่อพบองค์เจ้าลัทธิลามะดำ ท่านสอนให้สวดมนต์และทำพิธีกรรม เพื่อบรรเทาความ
ทุกข์
การทำพิธีกรรมอันนี้ จะช่วยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น มีความอบอุ่นมั่นคงในจิตใจ
เรื่องร้าย ๆ จะค่อย ๆ จางหายไป เรื่องดี ๆ ที่เป็นมงคลจะทะยอยเกิดขึ้นแก่ผู้ที่ปฏิบัติอย่าง
สม่ำเสมอ

ท่านจากไป พร้อมกับคำอวยพรขอให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา และมีครอบครัวที่มีความ
สุข ภรรยาของข้าพเจ้าพูดว่า \”ถ้าเนื้อคู่มีจริง ก็ขอให้ได้มีครอบครัวที่อบอุ่น เพราะชีวิต
ผู้หญิงคนเดียว สู้ชีวิตคนเดียว สักวันหนึ่งคงหมดเรี่ยวแรง หากมีกำลังใจจากสามีและลูกมา
เสริม ย่อมมีชีวิตอย่างมีความหวัง ไม่หดหู่ใจเหมือนบัดนี้\”
ช่วงที่ชีวิตตกต่ำ ได้ไปหาหมอดูคนหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงมาก เขาได้ทำนายว่า \”ตอนนี้
วาสนาเปรียบเสมือนอยู่บริเวณคอแจกัน คล้ายกับว่า เราหยุดนิ่งอยู่กับที่ แต่ความจริงเป็นช่วง
สะสมพลัง จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต จึงจะมีพลังเพียงพอที่จะผลักดันให้ดวงชะตา
ผ่านพ้นคอคอดขวดแจกันไปได้ ถ้าผ่านพ้นอุปสรรคอันนี้ไปได้แล้ว จึงจะมีชีวิตรุ่งโรจน์อีกครั้งหนึ่ง\”
\”การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ว่านี้ เป็นยังไง\” เธอถาม
\”ถึงเวลานั้นแล้ว ตัวของเราจะรู้เอง คนอื่นไม่มีใครจะรู้แทนเราได้\” หมอดูผู้นั้นตอบ
องค์เจ้าลัทธิลามะดำ เดินทางมาประเทศไทย หลายปีติดต่อกัน เพื่อเผยแพร่ลัทธิ
คำสั่งสอนและช่วยเหลือผู้คน เธอได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมายพอสมควร จนกระทั่งพบกันครั้ง
สุดท้าย เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ท่านถามว่า \”เป็นอย่างไรบ้างกับชีวิตในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีครอบครัว
หรือยัง\” ภรรยาข้าพเจ้าตอบว่า \”ชีวิตโดยทั่วไปจัดว่าไม่เดือดร้อน แต่เรื่องครอบครัวนั้น ยัง
ไม่มี\”
ความจริงมีคนมาจีบมากมาย แต่ไม่มีใครที่รู้สึกว่าจะมาเป็นคู่ชีวิตได้ เพราะยามมีเงิน
ทอง ก็มีคนมากมายมาคบหาคุยกัน แต่พอเล่าเรื่องปัญหาต่าง ๆ ให้ฟัง กลับหนีหายเป็นที่ปรึกษา
ไม่ได้
คนแบบนี้หรือจะมาเป็นคู่ชีวิต พอเจอปัญหามาขวางหน้าก็หลบลี้หนีหายไป นี่แหละหนอ
คนเรา ยามสุขอยากจะขอแบ่งปันความสุข ยามทุกข์ยอมอดสูให้ตราหน้าว่า เป็นคนไม่เอาไหนหนี
เอาตัวรอด
\”เธอกลับไปใช้วิธีเดิมทำต่อ ขออวยพรให้โชคดี\” ท่านพูดให้กำลังใจ
ถัดจากนั้นไม่นาน เราทั้งสองได้พบและแต่งงานกันอย่างมีความสุขตลอดมา
บางที บุพเพสันนิวาส อาจจะมีจริง เพราะหลายคู่ชีวิตมาจากต่างแดนต่างภาษาคนละ
มุมโลก มาครองคู่กันและมีความสุขจวบจนชีวิตหาไม่ ส่วนคู่สมรสที่ฝืนพรหมลิขิตทนอยู่กันไปจนชีวิต

จบสิ้นเพื่อลูกหรือกลัวเสียหน้า สุดท้ายรางวัลที่ได้รับ คือ ความชอกช้ำทุกข์ทรมานของหัวใจที่ไม่
สามารถบอกใครได้
ข้าพเจ้ามักมีความคิดอยู่บ่อย ๆ ว่า จะใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบในร่มกาสาวพัฒน์ แต่
จะต้องประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่จนพอใจก่อน นอกจากนี้อยากจะมีครอบครัวที่มีความสุข มีลูกที่มี
ความสามารถและเป็นคนดี ต่อไปจะได้คอยดูแลสิ่งที่เราได้สร้างเอาไว้
หลังจากได้ผ่านชีวิตวัยรุ่นและวัยทำงานมานานพอสมควร ก็พบว่า ผู้หญิงวัยรุ่นมีไม่มาก
นักที่คิดจะทำงานสร้างตัว เหตุที่เป็นทั้งนี้เพราะไม่มีคนชี้ทางแห่งความรุ่งโรจน์ให้ มีแต่เพื่อน ๆ ที่
คอยฉุดรั้งไปยังถนนสายที่มีแสงสีแห่งความบันเทิง
เมื่อเราสองคนพบกัน ต่างรู้สึกว่า เป็นบุคคลที่คุ้นเคยกันมากเหมือนรู้จักมาแต่ชาติก่อน
ครั้นได้ทราบว่าเธอประสบพบมรสุมรุมเร้ามากมาย ฟันฝ่าปัญหาเอาชีวิตเกือบไม่รอด ทำให้รู้สึกมี
ความเข้าใจในความแข็งแกร่งทาสทรหดของคนเรา
เมื่อเธอเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิต มาหยุดลงด้วยเรื่อง ทำพิธีกรรมอันนี้
\”องค์เจ้าลัทธิลามะดำ พูดถูก พิธีกรรมที่ทำนั้นได้ผลแล้ว\” ข้าพเจ้าล้อเล่นเธอ คน
เราควรมีคู่ชีวิตที่เป็นเนื้อคู่กัน จะได้ไม่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว สู้ชีวิตคนเดียวและตายไปอย่าง
ไม่มีความหมาย
โชคชะตาของมนุษย์อาจมีจริง คำทำนายที่เขียนขึ้นมาตั้งแต่หลายพันปีก่อน ดูเหมือนว่า
จะยังคงใช้ได้ดีในปัจจุบัน อาจเป็นไปได้ว่า เทวดาเป็นผู้เขียน
\”คำทำนายเปรียบไปก็เหมือนแผนที่ มองเห็นเป็นเส้นทางคร่าว ๆ แห่งอนาคต บน
เมฆหมอกควันไฟของชีวิตที่รุมเร้ารอบ ๆ ตัวเรา หากอดทนทำงานหนักและทำความดี เส้นทาง
แห่งชีวิตก็จะชัดเจนขึ้น เมื่อเดินไปตามทางสายนี้ย่อมจะพบความสุขความสำเร็จ หากทำความชั่ว
หมอกควันของชีวิตจะหนาแน่นขึ้น ทำให้หลงทาง ตกอยู่ในหุบเหวแห่งความทุกข์ทรมานใจชั่วชีวิต\”
ตอนที่เรามีลูกด้วยกัน ขณะตั้งครรภ์อยู่ เธอบอกว่า \”ตามดวงลูกจะเป็นอุปสรรคต่อแม่
และแม่จะเป็นอุปสรรคต่อลูก ถ้าเธอเป็นอะไรไปต้องหาผู้หญิงที่ดีกว่า เก่งกว่าเธอมาเป็นภรรยา
ที่สำคัญต้องเป็นคนที่รักข้าพเจ้ามาก ๆ เพราะวาสนาของข้าพเจ้าอยู่ที่ภรรยา ชีวิตจะมีความสุข
สมหวัง หรือมีความทุกข์ล้มเหลวขึ้นอยู่กับคู่ครอง อีกอย่างที่อยากจะขอร้อง คือ ขอให้ดูแลคุณแม่
ของเธอที่แก่มากแล้วจวบจนท่านสิ้นอายุขัย\” พร้อมกันนี้ได้จัดแจงให้ข้าพเจ้ามีชื่ออยู่ในทรัพย์สินที่
เธอถือครองอยู่ก่อนหน้าที่จะแต่งงานด้วย
ภรรยาของข้าพเจ้าเป็นโรคหัวใจชนิดหนึ่ง พูดง่าย ๆ คือ \”หัวใจเต้นเร็ว\” ผู้ป่วยที่
เป็นโรคนี้มีอันตรายตอนที่เกิดภาวะเครียดขึ้น ไม่ใช่ใจเครียดอย่างเดียว การตั้งครรภ์ก็เป็นความ
เครียดอย่างหนึ่ง เมื่อเกิดอาการขึ้น หัวใจจะเต้นเร็วได้ถึงกว่า 150 ครั้งต่อนาที ซึ่งปกติจะ
เต้นเพียง 80 ครั้งต่อนาที การที่หัวใจเต้นเร็วมากเช่นนี้อาจทำให้หัวใจล้มเหลวจนเสียชีวิตได้
ระหว่างตั้งครรภ์ บุตรของข้าพเจ้าอยู่ใน \”ท่าก้น\” เสมอ ผู้เป็นแม่รู้สึกเหนื่อยเหลือ
เกินกับการอุ้มท้องครั้งนี้ แต่มีความสุขใจที่มีลูกน้อยล่องลอยอยู่ในท้องดิ้นไปดิ้นมา เธอมักพูดคุยกับ
ลูกบ่อย ๆ \”ขอให้เป็นเด็กดี มีความสามารถและกตัญญู ขออย่าให้แม่เป็นอะไรไปเลย จะได้คอย
ดูแลลูกจนโตไงละ\”
โชคดีที่วิทยาศาสตร์ก้าวหน้า ถ้าเป็นสมัยก่อน เธอคงตายจากการคลอดลำบาก หรือ
ลูกคงตายจากการคลอดท่าก้น เธอคลอดบุตรด้วยการผ่าตัดเอาเด็กออกทางหน้าท้อง ข้าพเจ้า
ได้เรียนเชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคหัวใจ มาอยู่ในห้องผ่าตัดด้วย เกรงว่าอาจจะเกิดภาวะ
หัวใจล้มเหลวขึ้นมา เนื่องจาก การผ่าตัดจัดเป็นความเครียดอย่างหนึ่ง อาจทำให้โรคกำเริบ
ขึ้นมาได้
การคลอดเป็นไปด้วยความราบรื่น ได้ลูกชาย แข็งแรงสมบูรณ์ไม่พิการทั้งร่างกายและ
สมอง
\”ลูกของเราวาสนาอยู่ที่เงิน จะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวก็เนื่องมาจาก
เงิน เพราะฉะนั้น เราจะต้องทุ่มเทสร้างหลักปลูกฐานให้มั่นคงสำหรับลูกในภายภาคหน้า ตาม
ดวงลูกคงจะเป็นคนที่มีความสุขมากทีเดียว\” เธอบอก \”แต่เราสองคน วัยชราคงเหงาน่าดูเลย
เพราะโหงวเฮ้งตรงที่คางนั้นเล็ก โดยเฉพาะข้าพเจ้าคางเล็กมาก คงจะเหงายิ่งมากไปอีก\”
ข้าพเจ้าคิด \”เมื่อตอนตั้งครรภ์อ่อน ๆ ภรรยาของข้าพเจ้าตกเลือดจนเกือบจะแท้ง
เป็นครั้งที่สอง ต้องช่วยเหลือประคบประหงมอย่างที่สุดทุกวิถีทาง เธอเองได้ไปขอร้องเจ้าแม่
กวนอิม ขอให้ลูกของเราอยู่รอดปลอดภัยจนถึงคลอดออกมาแข็งแรงสมบูรณ์ โดยแลกกับอายุของ
เธอ 10 ปี\”
ข้าพเจ้าบอกกับภรรยาว่า \”ปกติเราสองคนมีชีวิตอยู่เป็นคู่กันและมีลูกคนเดียว เมื่อ
ลูกมีครอบครัว เราก็เป็นคนแก่มากแล้ว คงท่องเที่ยวและเป็นเพื่อนกันบนถนนชีวิตต่อไปได้อีกสัก
ระยะหนึ่ง หากข้าพเจ้าเสียชีวิตไปก่อนคงจะดี หากเธอจากไปก่อน เพราะไปทอนชีวิตแลกกับลูก
ข้าพเจ้าคงใช้ชีวิตเงียบ ๆ ท่องธุดงค์พเนจรไปตามหุบเขาลำเนาไพร สวดมนต์รักษาศีลและ
ศึกษาธรรมะเพื่อให้กาลเวลาล่วงเลยไป จนละสังขารจากโลกนี้\”
เธอพูดว่า \”เรื่องของอนาคต อย่าไปกังวลเลย มีความสุขตามประสาผัวเมียและ
เลี้ยงลูกให้เป็นคนดี แค่นี้ก็พอใจแล้ว ตอนนี้รู้แล้วว่า อะไรทำให้วาสนาโชคชะตาของเธอทะลุ
คอขวดแจกันขึ้นมาได้\”
\”อะไรหรือ\” ข้าพเจ้าถาม
\”การมีครอบครัวที่ดีไงละ\” เธอตอบ

&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
พ.ต.อ.นพ.เสรี ธีรพงษ์ ผู้เขียน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *